Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
Blog นี้ยังคงเขียนที่ Tokyo, หนึ่งในสามเมืองใหญ่ของโลกใบนี้
แต่สิ่งที่อยากจะเล่าจริงๆ คือ Flight ขามา, ผมได้ที่นั่งแสนสบายติดประตูทางออกฉุกเฉินบน Japan Airlines [อาจฟังดูไม่ค่อยดีแต่หลังจากที่ Backpack มาสี่ห้าสิบประเทศก็พบว่าตรงนี้นี่แลฯ คือ “ที่นั่งที่กว้างที่สุดของ Economy Class”]
ปัญหามีแค่ “คนข้างๆ”, ถัดไปทางด้านขวาซึ่งเป็นมนุษย์แม่ชาวไทยที่มากับ “เด็กนรก” หนึ่งคน !
ความจริงเด็กไม่ได้นรกมากมาย, แต่ดูเหมือนว่ามนุษย์แม่จะพยายามทุกวิถีทางให้เด็กร้องโวยวาย
แม้คนญี่ปุ่นข้างๆ สามสี่คนจะพยายามหันไป “มองหน้า” แต่ว่ามนุษย์แม่ชาวไทยก็ไม่สนใจ, ยังคงเล่นกับลูกไปตลอดเที่ยวบิน
“Demand for childfree holidays is higher than ever !”
ผมนึกถึงข่าวนี้บน The Telegraph UK ที่อ่านเมื่อวันก่อนว่าด้วย “คนต้องการวันพักผ่อนที่ปลอดจากเด็กเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ”, โดยเฉพาะในโรงแรม / ร้านอาหารและร้านกาแฟเพราะการมีเสียงเด็กร้องโวยวายมันทำให้คนเราพักผ่อนไม่ได้ !
เริ่มมีร้านอาหารและร้านกาแฟที่ขึ้นป้าย “ไม่ต้อนรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี” เพิ่มขึ้นเช่นกัน
แน่นอน, มันนำมาซึ่ง Drama เมื่อพ่อแม่บางคนอ้างว่า “จ่ายเงินเท่ากันทำไมไม่มีสิทธิพาเด็กเข้าร้าน !”
แต่ส่วนตัวผมกลับเห็นด้วยเต็มร้อยว่า “แล้วผมที่จ่ายเงินเท่ากับคุณทำไมไม่มีสิทธิทานข้าวอย่างสงบ”
และ “ทำไมคุณจ่ายเงินเท่ากับผมแต่มีสิทธิทำลายความสงบในชีวิตคนอื่น !”
เรื่องนี้ทำให้นึกถึง Drama อีกอย่างว่าด้วย “คนอ้วนควรจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินแพงกว่าคนปรกติ”
เพราะคุณกำลังละเมิดสิทธิของคนอื่น
“Should Obese Passengers Pay More to Fly ?” จาก BBC ก็เป็นอีกหนึ่งบทวิเคราะห์ที่ดี, เพราะคนที่นั่งข้างๆ คนอ้วนบนเครื่องบิน [ซึ่งอาจจะเป็น Flight ยาวสิบชั่วโมง…] ก็จ่ายเงินค่าตั๋วเท่ากับทุกคนแต่กลับต้องนั่งตัวลีบหรือเขยิบไปติดกระจก
เพราะคนที่นั่งข้างๆ ดัน “อ้วนมาก”
Case นี้เป็น Drama มานานในธุรกิจสายการบิน, ว่าคนอ้วนมีสิทธิในการ “ละเมิด” คนอื่นได้แค่ไหน
แน่นอน, คนอ้วนอาจเรียกร้องว่า “ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะอ้วนสักหน่อย !”
ซึ่งก็คล้ายๆ กับที่มนุษย์แม่โวยวายว่า “ก็เด็กมันร้องของมันเอง !”
ใครเคยข้าม Time Zone แบบสลับกลางวันกลางคืนจะเข้าใจ, ไม่ได้นอนมา 24 ชั่วโมงและยังต้องเจอเด็กบนเครื่องบิน
ความจริงทางออกมันง่ายมาก…
ไม่รู้คนอื่นคิดอย่างไรแต่สำหรับผม, แค่มนุษย์แม่ที่ว่าหันมา “ขอโทษ” หนึ่งที
หรืออาจไม่ต้องถึงขั้นขอโทษด้วยซ้ำ, แค่หันมา “โค้งหัวให้” ในเชิง “ขออภัยที่ทำให้ลำบาก”
ไม่ใช่ทำเป็นไม่สนใจหรือเล่นกับเด็กต่อไปตลอดเที่ยวบิน
หรือถ้าเป็นร้านอาหารก็แค่พาเด็กออกไป, ให้หยุดร้องไห้ก่อนแล้วค่อยพากลับเข้ามา
ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงบนโลกใบนี้เกิดขึ้นจากการที่คนเราไม่คุยกัน, ดันคิดแต่ว่า “ก็ฉันจ่ายเงินเท่ากับทุกคนแล้ว” โดยไม่สนใจว่า “คนอื่นก็จ่ายเท่ากัน” หรือคิดถึงแต่ “สิทธิ” ของตนโดยไม่สนใจว่าได้ “ละเมิด” สิทธิในชีวิตของคนอื่นแค่ไหน
คิดว่าเมืองไทยเราถึงเวลาเปิดร้านกาแฟแบบไม่เอาเด็กแล้วหรือยัง ?