Special : "How to สร้างตัวตนออนไลน์ให้ชีวิตและธุรกิจด้วย Social Media !"
ถ้าพูดถึงญี่ปุ่นในฤดูร้อนละก็, ต้องนึกถึงสาวในชุดยูกาตะ [Yukata] และงานดอกไม้ไฟ [Hanabi] ~
ช่วงนี้ที่ Sendai กำลังมีงานใหญ่ประจำปีอย่าง Tanabata, และเมื่อคืนก็มีการจุดดอกไม้ไฟยาว 90 นาทีสวยงามเต็มท้องฟ้า พร้อมกับจัดงานวัด [Matsuri] ใหญ่ มีหนุ่มสาวในชุดประจำชาติหน้าร้อนออกมาเดินจูงมือกันเป็นคู่ๆ
เสียดายที่ผมไม่มี Yukata และ Mayumi ก็ไม่ได้เอาชุดมาจากบ้านที่ Kyoto
[ชุด Yukata & Kimono ของ Mayumi เป็นชุดที่คุณยายใช้ในพิธีแต่งงานแล้วมอบต่อๆ กันมา o_O!!!]
และยิ่ง Sendai เพิ่งฟื้นตัวได้หลังจากแผ่นดินไหว & Tsunami จนโรงงาน Nulcear ระเบิดไปเมื่อสองปีก่อน…
ดังนั้น, งาน Hanabi & Tanabata ใน Sendai คราวนี้จึงดูยิ่งใหญ่และตั้งใจกันมาก ~
ที่จริงเมื่อ Week ที่แล้ว, ผมมาปีนยอด Fuji Summit เสร็จก็อยู่ต่อใน Tokyo เพื่อรอดูงานดอกไม้ไฟใหญ่ริมแม่น้ำ Sumida แต่ปรากฏว่า พอถึงวันงาน ฝนดันถล่มลงมาแบบฟ้าแกล้ง จนงาน Hanabi ต้องยกเลิก…
หลังจากวันนั้น ผมก็เดินทางมาหา Mayumi ที่ Sendai
และก็ได้รู้ว่ากำลังจะมีงานดอกไม้ไฟที่นี่พอดี :D
ทั้งในและหน้าสถานี Sendai Station ก็มีการตกแต่ง Tanabata เต็มไปหมด
และตอนทุ่มตรงของเมื่อวาน ทั้งเมืองก็เงียบสนิท…
เพราะทุกคนต่างมุ่งตรงไปรวมกันที่จุดเดียวคือสวนสาธารณะทางใต้ [Nishikouen] ของเมือง Sendai !
กลางเมืองแทบไม่มีคนเลยจริงๆ ครับ…
แต่ตลอดเส้นทาง Shopping Arcade ที่ตรงยาวไปจนถึงสวนสาธาณะกลับเต็มไปด้วยหนุ่มสาวในชุด Yukata ที่แต่งมาอวดกันเต็มที่ แต่ละคนถือพัดอันเล็กๆ เพราะอากาศมันร้อนจริงๆ ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งร้อน
ทว่า แต่ละร้านขายของที่มาตั้งตามเส้นทางยังคงดูเรียบร้อยเป็นระเบียบ
บางร้านที่ขายขนมน่ารักๆ อย่าง “Ringo Ame”, Apple ชุบน้ำตาลนี่มีคนต่อคิวกันน่าจะ 30 – 40 คิว
แต่บรรยากาศดูน่ารัก ปลอดภัย เดินแล้วสบายใจ ไม่เหมือนงานเทศกาลบ้านเราเดี๋ยวนี้
ที่มีแต่เด็กแว๊นซ์ออกมาปิดถนทำตัวเถื่อนๆ แล้วก็โชว์สก๊อยซ์ตบกันแย่งผู้ชาย
[คนไทยเราจิตใจสูงส่งน่ะครับ ส่วนญี่ปุ่นมันจิตใจต่ำทรามก็แบบนี้ละมั้งนะ ?]
สาวๆ มักจะถือ Ringo Ame ที่ว่า ไม่ก็สาลี่ปอกเปลือกกลมๆ น่ารัก ~*
ส่วนผู้ชายก็มักจะดื่มเบียร์สด [แก้วละ 400 – 500 Yen ได้], อีกมือก็ถือ Yakisoba เป็นกล่องๆ ไม่ก็ไก่ย่าง Yakitori / ไก่ทอด Karaage และไส้กรอกแบบต่างๆ
Yakisoba งานวัดนี่อร่อยสุดๆ ^^)
ส่วนมากจะไม่มีอะไรเลยนอกจากหมู 2 ชิ้น ไข่ 2 เส้นและผักดอง
แต่ด้วยบรรยากาศพาไป, ทำให้อะไรๆ ก็ดูตื่นตาตื่นใจ
ยิ่งทุกคนใส่ Yukata สวยๆ มาอวดกันก็ยิ่งทำให้ดูครึกครื้น
จน Mayumi แอบบ่นน้อยใจว่าใครๆ ก็น่ารักกันทั้งนั้น แต่ตัวเค้าเองสิ ไม่มีชุด Yukata ติดมาจาก Kyoto ด้วย :(
ผมก็บอกว่าแหม ~
ยังไง Mayumi ก็น่ารักอยู่แล้ว ^^)
ส่วนมากหนุ่มสาวในงาน Hanabi มักจะมาเป็นคู่ๆ เดินจูงมือทานขนมกันไป
ตอนผมรอดู Sumida Hanabi ที่ Tokyo มันเศร้ามาก…
เพราะตอนที่ดอกไม้ไฟเริ่มจุด, ทุกคนก็จะซบกัน มองเส้นสายหลากหลายสีที่วิ่งสู่ฟ้าแล้วระเบิดระยิบระยับ
[แต่ที่ Tokyo จุดได้ 5 นาทีก็ฝนถล่มซะ :P]
ถนนใหญ่ๆ ใน Sendai วันนี้ถูกปิด, แต่ไม่ใช่เพราะมี Mob มาประท้วงหรือแว๊นซ์ ทว่าตำรวจจะคอยมากั้นเส้นทางแล้วชี้ว่าตรงไหนสามารถดูดอกไม้ไฟได้บ้าง บางคนก็มาปูเสื่อรอล่วงหน้ากันครึ่งวันเพื่อหาจุดดีๆ
พวก Konbini [Convenience Store] เองก็เอาของออกมาขายหน้าร้าน, ทั้งไก่ย่าง ไก่ทอด เบียร์ ~
อย่างตอน Asakusa Matsuri เมื่อ 2 เดือนก่อน, Starbucks ยังเอากาแฟมาขายหน้าร้านเลยครับ ^^”
ไม่ว่าจะมองไปทางไหน, ทุกคนก็ยิ้มแย้มมีความสุข
แรกเริ่มเดิมที, ดอกไม้ไฟเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อคลายความโศกเศร้า ในสมัยที่ญี่ปุ่นอดอยากและเกิดโรคระบาด
ทุกครั้งทีมีแสงสว่างวาบขึ้นมาเหนือฟากฟ้า, คนก็จะมองไปยังจุดเดียวกันอย่างมีความหวัง
เช่นเดียวกับที่ Sendai หลังแผ่นดินไหวใหญ่สองปีผ่านมา
ผมกับ Mayumi ก็เดินจูงมือสองคน ผ่านผู้คนที่คึกคัก ผ่านถนนหนทางที่เต็มไปด้วยเพิงร้านค้า มาจนถึงหน้าสวนสาธารณะใหญ่ทางทิศใต้ของเมือง แล้วดอกไม้ไฟก็เริ่มจุดขึ้นตอนหนึ่งทุ่มตรงตามเวลา…
ความยาว 90 นาที
มีทั้งดอกไม้ไฟที่จุดแล้วเป็นตัวอักษรหรือเป็นรูปหัวใจสีชมพู
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างก็มองท้องฟ้าด้วยกัน
มีเสียงเฮฮาทำนองว่าตกใจเป็นพักๆ เวลา Hanabi ดอกใหญ่ หรือลวดลายแปลกๆ ถูกจุดขึ้นไป
และมีใครสักคนชมมันอยู่กับเรา
ผมใช้กล้องมือถือถ่ายรูปได้ไม่กี่นาที, ก็คิดได้ว่าเก็บมันลงไปดีกว่า
ดอกไม้ไฟแต่ละดอกงดงามจนไม่น่าจะนั่งมองผ่านจอ 4 นิ้วอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่มันควรจะชมด้วยสองตาและผ่านช่วงเวลาแห่งความทรงจำนี้ไปพร้อมๆ กันคนข้างๆ แล้วดอกไม้ไฟลูกต่อไปก็พุ่งขึ้นฟ้า…
สามทุ่มงานก็จบลง, แต่ละคนก็แยกย้ายกันกลับ ที่แปลกใจก็คือไม่ค่อยเห็นใครนั่งตั้งวงกินเหล้าร้องเพลงกันต่อ และตั้งแต่ต้นจนจบ ผมก็ค่อยๆ ลดความระแวงว่าจะมีปัญหา มีตีกัน มีอันตรายลงไปจนไม่เหลือความรู้สึกนั้นอีกเลย
Mayumi บอกผมว่า “Habani ปีหน้า เรามาดูด้วยกันอีกนะ”