Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 3 ใบ ! > "Click"
--------------------------
ส่วนตัวผมชอบนอน Hostel ไม่ก็ CApsule Hotel มากกว่าตามประสา Backpacker แต่พอดีรอบนี้พาคุณแม่มาเยี่ยมน้องสาวที่ Tokyo และครอบครัวสี่คนก็ Plan จะออกต่างจังหวัดไปไหว้พระใหญ่ [Daibutsu] ที่ Kamakura จึงหาที่พักผ่าน Agoda
ก็ไปเจอ Hostel เปิดใหม่ปี 2016 แห่งหนึ่งชื่อ “Webase Kamakura”, มีห้องพักแบบ Private Family Room !
แม้ตัวตึกรวมจะเป็น Hostel แต่ Private Family Room มีห้องน้ำพร้อมอ่างในตัวและทางเข้าออกแบบแยกต่างหาก
บ้านผมจึงตกลงใจจองไปเพราะห้อง Private Family มันใหญ่ขนาด 4 เตียงในราคาเพียง 2 หมื่นเยน [7000 บาทไทย]
แต่เมื่อไปถึง Webase Kamakura จริง, สิ่งที่รออยู่คือ “ตู้” ขนาด 4 ช่องในห้องพักแบบรวมที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน !
“Agoda ลงภาพผิด“
คือสรุปสั้นๆ
ที่บ้านผมจองผ่าน Agoda คือห้อง Private Family ขนาดใหญ่ 42 Sqm ในราคา 2 หมื่นเยนนิดๆ แต่จริงๆ ราคานี้บน Website ของ Webase Kamakura มันให้ได้แค่การเช่าเหมาห้องรวมแบบ Capsule / Dorm ขนาด 4 – 6 เตียง
ซึ่งไม่มีทั้งห้องน้ำ [Toilet] และห้องอาบน้ำ [Shower Room] ใดๆ !
ลองนึกภาพว่าคุณแม่ผมที่อายุ 70 ปีต้องปีนบันไดขึ้นไปนอนในเตียง Capsule เล็กๆ
และแย่งห้องอาบน้ำกับ Backpacker คนอื่น…
พอเห็นตัวห้องไม่ OK [แถมไม่ตรงกับภาพที่จองไว้ทาง Agoda], เราเลยตัดสินใจว่าต้องแจ้งพนักงานแล้วละ !
ความรับผิดชอบและของปลอบใจ !
หลังจากแจ้งพนักงาน Webase Kamakura [พูดภาษาอังกฤษยอดเยี่ยมมากและดีตรงที่คุณน้องสาวผมก็เก่งญี่ปุ่น], ทาง Staffs ก็ขอตัวไปส่ง Mail ประชุมกับ Agoda เป็นเวลาราว 30 นาทีก่อนที่จะเดินกลับมาเคาะประตูห้อง Dorm ของเรา
แล้วแจ้งว่า “ทางโรงแรมขอ Upgrade เป็นห้องแบบ Private Family Room ฟรี”
พร้อมเครื่องดื่มและขนมอีกหนึ่งกล่อง !
เป็นของแสดงความรับผิดชอบที่ทำให้ต้องลำบาก
หลังจากนั้นก็มีผู้ใหญ่อีกคนชื่อ Shingo Tsuchiya [น่าจะเป็น Manager ?] มาขอโทษอีกหนตอนเช้าวันรุ่งขึ้น
จบด้วย Mail อีกฉบับจาก Agoda ว่า “We Apologize the Confusion Regarding the Room Type You Booked”
[เป็น Mail ที่ประหลาดที่สุดในชีวิต, ผู้ส่งคือ Agoda แต่เนื้อด้านในเขียนโดย Tomo Abe แห่ง Booking.com]
สรุปสุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องดีเพราะมันแปลว่าบ้านผมได้นอนในห้อง Private Family Room ที่จริงๆ มันราคา 35000 Yen, ในราคาสองหมื่นนิดๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากการที่ Agoda ลงภาพผิดและเจอกับคนที่มีความรับผิดชอบ
ไม่อย่างนั้นคุณแม่ผมคงต้องปีนบันไดไปนอนในกล่อง
และแย่งห้องอาบน้ำกับฝรั่ง Backpacker ตัวใหญ่ๆ
จะว่าไป, ในชีวิตผมมักจะเจอแต่คนดีๆ บางทีก็ไม่รู้ทำไม
การพาคุณแม่มาไหว้พระใหญ่ [Daibutsu] จึงจบลงอย่างสวยงาม
จากนั้นเราก็ไปชมต้นไม้ที่ในหลวงภูมิพลทรงปลูกใน Kamakura และไปตามหาแมวที่เกาะ Enoshima
แต่ Drama [?] เรื่องนี้ก็เป็น Case Study ที่ดีเช่นกันเพราะผมก็ไม่ค่อยได้ Check ราคาและภาพจากหลายๆ Websites, เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เวลาจองที่พักก็คงไม่ได้เข้าไปดูซ้ำที่หน้า Page ของทางโรงแรมเองอีกทีว่ามันตรงกับสิ่งที่เราเห็นรึไม่ ?
[และต้องมี Case ต่อไปแน่เพราะ Agoda ก็ยังไม่แก้รูปที่อยู่บน Website เลย…]