Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
“ใครบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี, ดูไปรษณีย์สิคนส่งของเพียบ !”
“ที่ยอดขายหน้าร้านตกเพราะคนเขาหันมาซื้อ Online กันหมดแล้ว”
และอื่นๆ อีกมากมาย, เป็นประโยคที่เห็นได้ตามกระทู้ Pantip
[ผมก็เชื่อดังนั้นเหมือนกัน] จนกระทั่งวันก่อนตอนที่แวะส่งของกระทันหันในไปรษณีย์ห้างแห่งหนึ่งและระหว่างที่รอคุณพนักงานเขียนที่อยู่แปะลงกล่อง, ผมก็ชวนคุยเรื่องสภาพธุรกิจไปเรื่อยประมาณว่า “Online Shopping เดี๋ยวนี้ขายดีมากเลยนะครับ”
แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือการหัวเราะแบบขำๆ และ “ทุกคนบ่นว่ายอดขายตกหมดเลยค่ะ”
ไปรษณีย์คิวยาว : ไม่ได้แปลว่า Online Shopping ขายดี
หรือพูดให้ตรงกว่านั้นอีกที, คือเงินในระบบ Online Shopping รวมแล้วอาจเพิ่มขึ้นจริง
แต่ไม่ได้เข้ากระเป๋าเรา…
ส่วนตัวผมไม่ค่อยได้ไปไปรษณีย์เท่าไรเพราะไม่ได้ขายอะไร Online แต่ยอมรับเลยว่านานๆ ครั้งที่ผ่านไปแล้วเห็นคิวยาวๆ ทีไรก็เข้าใจว่า “คนมาส่งของเยอะจัง = ใครๆ ก็ขายดี” จนกระทั่งคุณพนักงานไปรษณีย์สาขานี้บอกว่า “หน้าใหม่ทั้งนั้น”
และทุกคนที่มาส่งของก็บ่นว่า “ขายแทบไม่ได้”
ด้วยความงงและสงสัย, ผมก็เลยชวนคุยต่อไป
เหตุผลก็ง่ายๆ
ความจริงของการ Pack กล่องส่งไปรษณีย์ที่คนนอกมองไม่เห็น
1. เดิมทีไปรษณีย์คนไม่เยอะเท่าไรเพราะมีแม่ค้าอยู่ 5 ร้านกับสินค้า 5 อย่าง
2. แต่พอคนเดินผ่านไปรษณีย์แล้วเห็นว่า “ขายดีจัง”, ก็หันไปเปิดร้าน Online ของตัวเองบ้าง
3. ปัจจุบันแม่ค้าเพิ่มมา 10 เท่า, กลายเป็น 50 ร้าน !
4. ไปรษณีย์ก็ยิ่งล้น, คนที่ผ่านไปผ่านมา [หนึ่งในนั้นคือผม] เห็นก็ยิ่งคิดว่า “ขายของ Online บ้างดีกว่า !”
5. พอไม่รู้จะขายอะไร, ก็ใช้วิธีสังเกตเอาว่าคนที่มาส่งของเยอะๆ เขาขายอะไรแล้วก็ขายตาม
สุดท้าย, พนักงานก็เล่าว่า “ร้านหน้าเก่าทยอยตายเพราะยอดขายลดลง [จากหน้าใหม่ที่เข้ามาตัดราคากันเองจนมีแต่เจ๊งกับเจ๊งเพราะกำไรหายหมด]” และ “หน้าใหม่เยอะขึ้นทุกวัน” แต่ “ทุกคนก็ขายสินค้าเหมือนๆ กัน” เลยยิ่งแย่งตลาดกันเข้าไปใหญ่ !
คนที่เจ๊งไม่ได้กลับมาบอก : ไปรษณีย์เต็มไปด้วยหน้าใหม่
คือใครที่ขายไม่ได้ก็จม Stock ตายไปเงียบๆ
ส่วนคิวคนส่งของหน้าไปรษณีย์ก็เพียบเหมือนเดิม…
ส่วนตัวผมเชื่ออยู่หรอกว่า “เงินในระบบ” ของ Online Shopping ทั้งหมดมันเพิ่มขึ้นแต่มันไม่ได้อยู่ในระดับที่ “ใครๆ ก็เข้ามาหยิบไปได้ง่ายๆ” อีกต่อไป, โดยเฉพาะคนที่ “ไม่รู้จะขายอะไรก็เลยขายตามๆ คนอื่นเขาไป” ก็ยิ่งเสี่ยงที่จะ STock จม
และว่ากันตรงๆ [อีกที], เดี๋ยวนี้ผมก็แยกร้านที่ขายของเหมือนๆ กันออกจากกันแทบไม่ได้
เมื่อจำชื่อและแยกความต่างไม่ได้, ร้านไหนที่ทำ “สงครามราคา” หนักกว่าก็ชนะไป
กลายเป็นว่าต่อให้ทำยอดขายได้ก็ไม่เหลือกำไร, เผลอๆ แค่ต่อคิวส่งไปรษณีย์ก็ไม่คุ้มเหนื่อยแล้ว