Special : "How to สร้างตัวตนออนไลน์ให้ชีวิตและธุรกิจด้วย Social Media !"
Okay, มันคือ “BMW G310r” กับความจุกระบอกสูบ 310 cc ที่หลายคนอาจเหยียดว่า “นี่ไม่ใช่ BigBike !”
[ในขณะที่พนักงานขายแสนสวยของ BMW ยืนยันว่ามันคือ “Mini BigBike”, ฟังแล้วคล้ายๆ “Mini BigC”]
หนึ่งในเหตุผลที่ผมถอย BMW [Mini] BigBike คันนี้ออกมาก็เพราะว่าวันก่อนมีเหตุให้ต้องเอาคุณรถยนต์ไปเข้าศูนย์และอาจต้องใช้เวลาสักพักเนื่องจากปัญหาเรื่อง Brake, บวกกับการที่นางเชียร์ให้ “ขี่น้อง BigBike กลับไปก่อนเลยค่า !”
[และ BigBike สมัยนี้ก็รูด Credit Card ได้เต็มราคา, สรุปว่าได้ไมล์สำหรับตั๋วเครื่องบินไปกลับญี่ปุ่นมาอีกหนึ่งใบ]
ในช่วงเวลาสามสี่ [ห้าหกเจ็ด] วันที่ผ่านมา, ผมก็เจอ “นรก” มาหลายอย่างที่คนขี่ BigBike ไม่เคยเล่าให้ฟัง (メ`ロ´)/!
BigBike in Bangkok Review : จะพูดถึงการขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ในเมืองกรุงฯ
1. เข้าใจแล้วว่าทำไมเวลาคนขี่ BigBike ล้มถึงได้ขาหัก (ó﹏ò。)
2. และทำไมถึง “ตาย” ทั้งที่อาจไม่ได้ใช้ความเร็วสูงมากมาย [เท่าเวลาขับรถยนต์]
3. เพราะ “น้ำหนักรถ” คือปัญหา, โดยเฉพาะสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ที่ขาดทั้งความสูงและกำลังแขน
4. ยิ่ง BigBike มาพร้อม “กำลังเครื่องยนต์”, แค่บิดนิดเดียวมันก็ ”พุ่ง” ไปข้างหน้า
5. รู้ตัวอีกทีก็หงายหลังลงมานอนเอ๋อที่พื้นหรือไม่ก็ถูก “ทับ” โดยเหล็กตันๆ ที่หนักร้อยกว่าๆ ถึงสองร้อยโลฯ
6. ระหว่างที่นั่งงมหาวิธีขี่ BigBike ด้วยตัวเอง, ผมเจอ Bloggers และ Youtubers สายแวนซ์จำนวนมากที่ยืนยันว่า “เท้าไม่ถึงพื้นก็ขี่ BigBike ได้ !” ซึ่งก็จริงถ้ารถมันกำลังวิ่งด้วยความเร็วประมาณหนึ่งจน “อยู่ตัว” ตามหลักแรงหนีศูนย์กลาง
แต่ชีวิตจริงไม่ใช่, โดยเฉพาะใครที่คิดจะออก BigBike มาขี่ในกรุงเทพฯ เขตสุขุมวิท
7. ทุกๆ สองวินาทีต้องชลอแล้วก็เบรคพร้อมๆ กับประคองน้ำหนักร้อยกว่าสองร้อยโลที่ความเร็วต่ำๆ [ซึ่งยากกว่าที่ความเร็วสูงๆ, นี่ก็ตามหลักแรงหนีศูนย์กลางอีกเช่นกัน] และมันเสี่ยงมากหาก “เท้าทั้งสองข้างแตะไม่ถึงพื้น [แบบไม่ถึงจริงๆ !]”
8. หรือถึงไม่อันตราย, ก็ลำบากสังขารสุดๆ เพราะ BigBike ที่วิ่งช้าๆ มันจะเพิ่มความร้อนเป็นทวีคูณณณณณ
9. ลองนึกภาพรถยนต์ที่มีปัญหาหม้อน้ำ, ยิ่งวิ่งช้าเท่าไรไฟก็ยิ่งลุกเท่านั้น
10. เหมือนเตาหมูกะทะที่วิ่งได้, แถมแดดกรุงเทพฯ ก็จะช่วยให้เราสุกไวขึ้นอีก
11. ใครมีภาพว่าขี่ BigBike ไปประชุมแถวเพลินจิตแล้วสาวจะกรี๊ด, ชีวิตจริงคือไปถึง Office ในสภาพหัวแฉะและเหงื่อท่วม
12. เจ้าตัวอาจไม่รู้สึกอะไรหรอกแต่ในมุมของคนนอก, ผมอยากบอกว่ามันเสียบุคลิกมากกกกกกก
13. นี่ยังไม่นับว่าต้องใส่หมวกใส่ชุดป้องกัน, ซึ่งมันก็ไม่ได้เหมาะกับอากาศเมืองไทย [อย่างน้อยก็กรุงเทพฯ] เลย
14. พอขี่ไปถึง Office ลูกค้า, ปรากฏว่าหาที่จอดไม่ได้ !
15. เพราะรถมันใหญ่, แถมยังมีทั้งหมวกทั้งอุปกรณ์มากมาย
16. วางทิ้งไว้ที่รถก็กลัวหาย, จะแบกไปคุยงานด้วยก็กลับไปอ่านข้อ 12
17. คือที่นี่ Bangkok, บ่ใช่ Munich ψ`ー´)ノ
18. อันนี้ต้องย้ำอีกทีว่า “ถ้าใครเน้นขี่ออก Trip ต่างจังหวัดหรือวิ่งเฉพาะกรุงเทพฯ รอบนอกอาจยัง Okay” เพราะทำความเร็วได้ในระดับหนึ่ง [จากร้อย] ซึ่ง BigBike ก็น่าจะถูกออกแบบมาให้วิ่งในลักษณะนี้มากกว่าจะหาเรื่องมาติดแหงกอยู่แถวอโศก
19. กลับมาที่เรื่อง “ส่วนสูง” และ “ขาแตะ [ไม่] ถึงพื้น”
20. ผมสูง 170 cm, สามารถ “วางเท้าทั้งสองข้าง” ลงบนพื้นแบบพอดิบพอดีเมื่อขี่ BMW G310r คันนี้ ψ(`∇´)ψ
21. สำหรับนักนักแข่งและนักขี่มือโปรฯ อาจบอกว่า “ไม่จำเป็นต้องยืนถึงก็ขี่ BigBike ได้ !”
22. แต่ไม่ใช่ในกรุงเทพฯ, ที่มีจังหวะให้เรา “ต้อง” เอาเท้าวางพื้นบ่อยมาก
23. หลังผ่านนรกแถวสุขุมวิทมา, ผมก็กลับไปไล่อ่านกระทู้ Pantip อีกที
24. สังเกตเพิ่มมาอย่าง, บางท่านที่ยืนยันว่า “ขี่ BigBike ในเมืองง่ายจะตาย” นั้น
25. เขาเข้าใจคำว่า “ขี่ในเมือง“ ไม่ตรงกับผม [นี่หว่า…]
26. ดูจากฉากหลังในภาพถ่าย, เขาหมายถึง “ขี่ในตัวเมือง“ ต่างจังหวัด [ที่รถยังน้อยกว่า “รอบนอก” ของกรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ] และเมื่อ “ทำความเร็วได้” ก็แปลว่า “ไม่ต้องมานั่งปล่อยๆ กำๆ ทั้ง Brake ทั้ง Clutch” เพื่อประคองตัวรถไม่ให้ “ดับ” ที่ความเร็วต่ำๆ
[ผมขี่บนสุขุมวิท 20 นาที, ปล่อยๆ กำๆ ทั้ง Clutch ทั้ง Brake ประมาณล้านครั้งจนเส้นประสาทชาไปครึ่งซีก…]
27. นี่ยังไม่นับว่าถ้าเกิด Accident ให้ต้องประคองตัวรถขึ้นมา
28. เตาหมูกะทะน้ำหนักสองร้อยโลกว่าๆ บนถนนกรุงเทพฯ ที่แดดร้อนวัวตายความล้มก็ไม่ใช่เรื่องขำ
29. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง, ใครที่ “สูงไม่ถึง” ซึ่งก็น่าจะ “กำลังแขนไม่มาก”
30. และที่เรา “สูงไม่ถึง” ก็แปลว่าทุกครั้งที่ติดไฟแดง [ประมาณล้านแยกระหว่างอ่อนนุชถึงเพลินจิต] จะต้องหยุดรถแล้วเอาขาลงด้วยการ “เอียงตัวรถ” ไปด้านใดด้านหนึ่ง, ซึ่งก็มักจะเป็นด้านซ้ายแล้วก็เอา “ขาข้างเดียว” ยันน้ำหนัก BigBike ทั้งหมดไว้
31. ผมขี่จักรยาน Size ฝรั่ง [ที่แถมมากับรถยนต์ BMW นั่นแลฯ] มาก่อนจึงทราบดี
32. เช่นกัน, เวลาจอดตามสี่แยกก็ต้อง “เอาขาลง” แล้ว “ประคองจักรยานที่เอียงซ้าย” เอาไว้ด้วยสองมือ
33. แต่ “จักรยาน” ทำได้เพราะน้ำหนักมันเบา [Cruise M Bike ของผมแค่ 14 Kg]
34. แต่ BigBike หนักกว่านั้นอย่างน้อยๆ ก็สิบถึงยี่สิบเท่า !
35. การที่เราต้อง “เอียง” มันทุกสี่แยกหรือทุกการหยุด, มีโอกาสที่จะ “ล้มพับ” โดยเฉพาะคนที่ขาสั้นมากๆ
36. ยังไม่นับการเข้าโค้งและกลับรถที่ความเร็วต่ำๆ [เพราะทำ Speed ไม่ได้ในกรุงเทพฯ], น้ำหนักของ BigBike บวกกับกำลังแขนที่น้อยจะยิ่งดึงรถให้ล้มพับ [ศัพท์ BigBike เรียกว่า “ล้มแปะ”] หน้าห้าง Central the Embassy ให้เป็นที่อนาถใจ
37. ทฤษฏี “แรงหนีศูนย์กลาง” ยังคงมีผลบังคับใช้, ไม่ว่าคุณจะขี่ Yamaha / Honda / Ducati หรือ BMW
38. นี่พูดถึงแค่ Bike & Body, อีกสิ่งที่สำคัญมากบนถนนกรุงเทพฯ คือคุณภาพคน
39. ผมเคยขับรถยนต์ที่ความเร็วสูงสุดเกือบ 300 Kmph มาแล้ว !!!
40. ซึ่งก็แน่นอนว่าบน “Autobanh” ใน Germany
41. การที่ผมกล้า “เหยียบ” ขนาดนั้น, มันไม่ใช่แค่เรื่องของ “พลังมหาศาล” จากเครื่องยนต์ BMW
42. แต่ผมต้อง “โคตรอภิมหามั่นใจ” ในคุณภาพถนนและคุณภาพประชาชน German เพราะถ้าคนขับคันข้างหน้าเมาแอ๋แล้วเปิดกระจกปากระป๋องเบียร์เล็กๆ [ขนาด 1 ลิตร] ออกมา, โดนกระจกหน้ารถผมที่ความเร็ว 300 Kmph กว่าๆ คือตายสถานเดียว
43. แต่ถนนเมืองไทย, การที่คันหน้าเปิดกระจกดีดขี้บุหรี่ใส่คันหลังคือเรื่องธรรมดา (#´ー´)旦
44. เกิดอะไรขึ้นมาก็ “ตายฟรี”, เผลอๆ จะมีคนหัวเราะเยาะซ้ำด้วยว่า “สมน้ำหน้าลาก่อน BigBike”
45. ย้ำอีกที, นี่ขนาด BMW G310r มันเป็นแค่ BigBike ขนาด “Mini”
46. และขนาดผม “ยืนถึง” ทั้งสองเท้า, บวกกับประสบการณ์ขี่จักรยานบนถนนใหญ่มาสิบกว่าปีในสิบกว่าประเทศ
47. BigBike มัน “อันตราย”, นี่คือเรื่องจริง
48. ต่อให้ขี่ด้วยความเร็วต่ำ, แต่รถคันหลังก็พร้อมที่จะ “เมา” หรือ “คุยโทรศัพท์” แล้วพุ่งมาใส่
49. เมื่อเทียบกับการขับ EcoCar ที่ราคาเท่าๆ กัน, คุณไม่ตายแน่ๆ ที่ความเร็ว 70 Kmph
50. แต่ถ้าเป็น BigBike, ต่อให้ราคากี่ล้านก็ไม่รอดเมื่อเจอซัดจากด้านหลังตรงแยกไฟแดง
51. โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ฝนตกทุกวันหลังเลิกงาน, ขามาเป็นหมูกะทะขากลับเป็นหม้อ Shabu Shabu
52. ทั้งหมดนี้ไม่ได้แปลว่าผม Anti BigBike, มันก็เหมือนๆ กับที่ผมชอบขี่จักรยานในทุกเมืองที่แบกเป้ Backpack ไปแต่ผมจะไม่สนับสนุนให้ใครขี่จักรยานในกรุงเทพฯ เด็ดขาดเพราะโครงสร้างถนนและคุณภาพประชาชนเราไม่ได้พร้อมสำหรับมัน
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังคิดจะซื้อ BigBike มาใช้ในเมือง, แบบ “เมืองเมื้องเมือง” ครับ