Special : "How to สร้างตัวตนออนไลน์ให้ชีวิตและธุรกิจด้วย Social Media !"
ปีที่แล้วผมมีเหตุให้ต้องไปศาลนานประมาณ 6 เดือน
อาจฟังดูแปลกๆ, แต่มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
และยังทำให้ได้รู้แง่มุมกฏหมายหลายๆ อย่างที่คาดไม่ถึง, โดยเฉพาะเรื่อง Digital & Online
แต่ที่อยาก Share ใน Blog นี้ไม่ใช่เรื่องธุรกิจหรือ Drama, มันคือ “ภาพที่ผมเห็นซ้ำๆ ทุกครั้งหน้าห้องขัง” เวลาที่นักโทษจาก “เรือนจำ” ถูกพามาออกศาลเพื่อ Update คดีความก่อนจะถูกต้อนไปขังรวมกันที่ “ใต้ถุน” ด้านล่างเพื่อรอเวลาส่งตัวกลับเข้าคุกตอนห้าโมงเย็น
เป็นเวลาที่ญาติๆ จะมารวมกัน, และสิ่งที่ผมเห็นทุกวันคือเด็กอายุไม่ถึงสองขวบร้องอ้อแอ้อยู่หน้าลูกกรง…
เกือบทั้งหมดของผู้ต้องขังโดนข้อหายาเสพติด
บางคนต้องติดคุกอีกสิบปี, ยี่สิบปีสามสิบปี
ที่เจอหนักสุดคือห้าสิบปี !
หรืออาจต้องอยู่ในนี้จนวันตาย
ซึ่งก็ดี, ที่ชดใช้กรรมของตน
แต่เกือบทั้งหมดอีกเช่นกัน, ญาติที่มาเยี่ยมนักโทษเกือบทุกคนอุ้มเด็กตัวเล็กๆ ที่ดูแล้วเต็มที่ก็ขวบสองขวบเพื่อกดโทรศัพท์ด้านนอกเรียกหา “พ่อ” ที่ถูกขังอยู่ด้านในให้วิ่งมา “เกาะลูกกรง” ตะโกนคุยกันทั้งที่ลูกยังทำไม่ได้แม้กระทั่งจะเรียกว่า “พ่อ”
เสียงอ้อแอ้ๆ ร้องระงมอยู่หน้ากรงขัง, เห็นทุกวันและทุกวัน
ที่สำคัญ, “พ่อ” ส่วนใหญ่อายุแค่ยี่สิบกว่า
“แม่” ดูแล้วก็น่าจะเกินสิบห้ามานิดหน่อย
ลูก…
ที่พ่อยังอยู่ในกรง, กับแม่ที่ไม่รู้ว่าชีวิตวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ถ้าเลือกได้, คงไม่มีใครอยากเกิดมามีพ่อเป็นนักโทษ
แต่ใครเลยจะเลือกได้
เรื่องนี้ติดอยู่ในใจผมตลอดมาตั้งแต่คดีที่ศาลจบลงไปเมื่อปีก่อนจนกระทั่งมีคนแนะนำให้ผมรู้จักกับ “บ้านพระพร”, คือสถานสงเคราะห์ที่รับดูแลเด็กเล็กๆ ที่พ่อแม่พลัดหลงเข้าไปอยู่ในโลกหลังกรงขังเพื่อให้ “โอกาส” น้องๆ ได้เริ่มต้นใหม่จากศูนย์
แม้จะต้องต้นเริ่มจากศูนย์…
แต่อย่างน้อยก็คงดีกว่าเริ่มจากติดลบ
ในโลกแห่งความจริงที่ไม่ได้สวยงาม
เมื่อมีพ่อเป็นผู้ต้องขัง, มีแม่อายุสิบห้า
เช่นเคย, 10% ล่าสุดจากท่านที่นัด How to be Blogger แบบส่วนตัวจะส่งไปบริจาคที่นี่และหากท่านใดอยากร่วมสมทบทุนก็ได้ทำโดยตรง [ไม่ผ่านมือผม] ที่ 1402576556 [SCB], ชื่อบัญชี “มูลนิธิบ้านพระพร [House of Bless]”
ขอให้วันพรุ่งนี้มีแสงสว่าง, ให้ตลอดการเดินทางมีความช่วยเหลือเกื้อกูล
ขอบคุณครับ