Special : "How to สร้างตัวตนออนไลน์ให้ชีวิตและธุรกิจด้วย Social Media !"
“กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้, ที่แถว Office กลางใจเมือง มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ และก็มีเด็กจบใหม่เข้ามาสมัครงาน & สอบสัมภาษณ์ โดยเด็กคนนั้นจบวิศวะฯ จากจุฬาฯ พร้อมด้วยบทสนทนาดังนี้…
A : อยากได้เงินเดือนเท่าไร ?
B : ขอแค่เรื่มต้นตามอัตราวิศวะฯ จบใหม่ก็พอแล้วครับ
A : 12000 บาทรึ ?
B : 15000 บาทครับ
A : ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณสมควรได้รับเงินเดือนเท่านี้ ?
B : แหม ผมจบวิศวะจุฬาฯ เชียวนะครับ มาตรฐานมหา’ลัยผมก็รู้กันอยู่ว่าสูงขนาดไหน ?
A : ได้ ผมจะให้คุณที่เดือน 18000 บาทเลย แต่มีข้อแม้นิดเดียว คือคุณลองไปก่ออิฐผนังห้องแข่งกับคนงานพม่าให้ผมดูหน่อย ถ้าวันนี้คุณทำได้สวยและก่อได้มากเหมือนเขา ผมจะถึงให้เงินเดือนคุณ 18000 บาท
ถึงตอนเย็น, เดินผ่านไซต์งาน ผมก็ยังเห็นเขาวัดระดับน้ำกับถือเกรียงเคาะปูนอยู่เลย
สุดท้าย, นิทานเรื่องนี้ก็สอน [?] ให้รู้ว่า “บางคนจบสถาบันใหญ่ๆ มาก็ใช่ว่าจะเป็นไปซะทุกอย่าง”
…
ที่เล่ามาจนถึงบรรทัดนี้ คือนิทาน Version เดิมกำลังซึ่งถูก Fwd บน Facebook อย่างน่าซาบซึ้งใจ
แต่ผมเรียกนิทานนางฟ้าเรืองนี้ว่า “กับดักนายจ้าง” แบบ “Thailand Only”
ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่า ทำไมผมจบ Engineer มา จะต้องไปก่อปูนครับ ?
คุณน้องสาวผมคนหนึ่งเกิดและอยู่ USA มาสิบกว่าปี, สมมติว่า ถ้าเขาไปสมัครงานในไทย แล้วคนสัมภาษณ์บอกว่า “คุณต้องคัด A – Z ให้สวยกว่าเด็ก ป 4 ถึงจะรับเข้าทำงาน ไม่อย่างนั้นแปลว่าคุณไม่ได้เรื่อง !”
หรือก็เหมือนคนที่จบ Programming มา, ถูกสั่งว่า “ไปซ่อม Com ซิ !”
Programmer คนไหนที่ยอมไปนั่งรื้อ Main Board ให้ Boss คนนี้, ชีวิตการงานคุณบรรลัยแน่นอน
เพราะคุณเลือกจะเอาตัวเองไปวางในที่ๆ คุณค่าของคุณต่ำสุด
ถ้าเป็นผม, คง Walk Out แล้วไป Backpack ดีกว่า เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาของทั้งสองฝ่าย
อาจมีคนค้านผมว่า “เด็กจบใหม่ มีอะไรให้ทำก็ทำไปก่อน” แต่ผมกลับคิดว่า งานแรกนี่ละ, คือก้าวสำคัญสำหรับการย้ายบริษัทต่อไป / การเรียกเงินเดือนที่ใหม่ให้สูงขึ้น รวมทั้ง การถูก “ซื้อตัว” โดย Headhunter
และเพื่อนๆ วัย 30 ของผมที่เริ่มต้นในบริษัทดีๆ, ตอนนี้เงินเดือนหลักแสนกันหมดแล้ว โดยไม่มีใครก่อปูนเป็นเลยครับ