Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 3 ใบ ! > "Click"
--------------------------
Short Note ไว้อ่านและไว้ Share ต่อให้คนรอบข้างที่อยากจะย้าย OS
ผมได้ Vertu New Signature Touch เครื่องนี้มาเป็นของขวัญวันเกิด, หลังจากที่บ่นลง Blog ประมาณ 4 ล้านทีว่า “iPhone 7 เป็นมือถือที่ดีแต่น่าเบื่อ“ ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ “มันตัดหูฟัง 3.5 mm” และมีความต่างน้อยมากจาก iPhone 6S
นับจากวันเกิดมา, ตอนนี้ก็ 10 วันพอดีและก็มากพอที่จะเริ่มรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ Android
จริงๆ เรื่องทำนองนี้คงมีหลาย Blogs & Websites ที่เขียนๆ กันไปเยอะ, แต่อาจไม่ Update เท่าไร
สำหรับใครที่ใช้ Android อยู่และกำลังดูๆ จะซื้อหรือจอง iPhone 7 / iPhone 7 Plus ก็อ่านได้ครับ
การย้าย File [โดยเฉพาะเพลง] ที่ง่ายขึ้นอย่างมหาศาล
คงเดาได้ว่าผมหมายถึง iTunes, Software คู่บุญบารมีแห่งจักรวรรดิ Apple ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาของใครหลายคนโดยเฉพาะ Users ชาวไทยที่อาจเพิ่งย้ายมาใช้งาน Apple iDevice ได้ไม่นานและมี Load เพลงเถื่อนเต็มโกดัง
ผมเองเป็นคนที่ Anti เรื่องนี้แต่ก็มีเพลงเก่าๆ สมัยที่ Write จากแผ่น CD มาเก็บบน VAIO เป็นพัน !
รวมทั้งเพลง Klassik ที่เก่ายิ่งกว่าเก่า, ตั้งแต่สมัยที่โลกเรายังไม่รู้จักคำว่าลิขสิทธิเลยด้วยซ้ำ
ยิ่งผมเพิ่งจะเปลี่ยนจาก VAIO มาเป็น Macbook Air เมื่อต้นปี 2016, การย้าย Files พวกนี้ก็ลำบากอยู่แล้ว
พอจะเอามาลง iPhone 7 ผ่าน iTunes ที่ไม่สามารถ “Copy & Paste” ได้, มันคือนรกชัดๆ
ซึ่ง Vertu & Android ทำได้แสนง่ายดาย, เหมาะมากมายสำหรับพวกที่คลัง Media รกๆ เละๆ จนแก้ไม่ไหว
แต่ Application ยังแพ้ iOS ขาดลอย…
“ทุก Apps ที่ผมใช้ในชีวิตประจำวันล้วนแย่กว่าหมด”, จะว่าอย่างนั้นเลยก็ได้
เอาแค่ Starbucks Thailand App ในภาพด้านบน, การแสดงผลมันจะดูเบี้ยวๆ ตั้งแต่ตัวเลขดาว [Starbucks Rewards] / การตัดบรรทัด / ขนาดตัวอักษรบนปุ่ม [โดยเฉพาะ Add a Card] และปัญหา Notification !
Starbucks Thailand App บน Android จะส่งข่าวสารใหม่ๆ มาช้ากว่าบน iOS, ไม่ทราบว่าทำไม
และการเลื่อนบัตร Starbucks Card ซ้ายขวาก็จะสะดุดเป็นระยะๆ เช่นเดียวกับการเลื่อนเลือกรถใน Uber App
แม้บางอย่างอาจไม่ได้ส่งผลต่อคุณภาพการใช้งาน, แต่พอมาอยู่บนจอ Vertu มันจะดูเหมือนมือถือเครื่องละ 3 พัน…
เป็นความขัดใจเล็กๆ ที่ Android & Google คงไม่มีวันแก้ได้จริงๆ
Android & Macbook และการติดขัดในทุกจังหวะของชีวิต…
ผมใช้ VAIO Windows Laptop ติดกันมาสามเครื่อง, มันทำงานกับ Android ได้ดีทีเดียวเพราะทุกสิ่ง “ค่อนข้างเปิด” เหมือนกัน [รวมทั้งการ Copy & Paste และ File Manager] แต่ VAIO ก็ยังทำงานกับ iOS ได้ในระดับไม่ยาก
แต่ MacOS VS Android นี่คือนรกเรียกพ่อ
หลัง VAIO ล่มสลาย, ผมเลยลองเปลี่ยนมาเป็น Macbook เครื่องแรกและพบว่ามันใช้ร่วมกับ iPhone 7 ได้ “Perfect !”
ถ่ายภาพด้วยกล้อง iPhone 7, Sync เองขึ้น iCloud แล้วมาเปิดบน Macbook ทันที
Safari Browser ก็ Sync ถึงกันแบบไร้รอยต่อ, อะไรที่เปิดค้างบน Macbook ก็อ่านและ Edit จากบน iPhone 7 ได้ !
แค่จะดึงภาพถ่ายลง Macbook แบบต่อสาย USB ยังต้องลง Software ช่วย, ทุกสิ่งที่เคย Sync ได้ล้วนหายเรียบ…
และความไม่ Compatible กันในระดับนรกขุมที่ 48 ของ Google & Apple
คงเพราะต่างก็คิดว่าตัวเองคือ Tech Titan, เรื่องอะไรจะต้องไปอำนวยความสะดวกให้ศัตรู
ในขณะที่ Services หลายๆ อย่างของ Microsoft ยังพอจะมีบ้างบน App Store ของ 2 OS นี้
เช่น Hotmail / OneDrive / Outlook / Microsoft Office / OneNote ในระดับ “ใช้งานได้”
แต่ Apple ไม่ทำอะไรลง Android App Store เลยจริงๆ
ผมที่ใช้ iPhone 5S / iPhone 6 / iPhone 6 และ iPhone 7 มาจน “ติด” โดยฝากทุกสรรพสิ่ง [แม้กระทั่งรายชื่อและแผนที่ร้านอาหารแมวแบบ Low Sodium] ขึ้นบน iCloud & iPhoto จึงดึงข้อมูลพวกนี้ลง Android ไม่ได้แต่อย่างเดียว…
ทั้ง Paragraph นี้และ Paragraph ก่อนหน้า, บอกเลยว่า “คิดถึง [Ecosystem ของ] Apple iDevice มาก”
วันแรกที่ขาย iPhone 7 ทิ้งไปแล้วย้ายมา Vertu New Signature Touch, บอกตรงๆ ว่างงมาก…
เพราะไม่รู้จะย้ายข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดมาด้วยวิธีไหน ?
ว่ากันแบบไม่ Bias, เรายังพอเห็นพวก Google Apps & Google Services บน iOS
ใครที่ฝากชีวิตรวมทั้งสมุดรายชื่อและ Calendar เอาไว้กับ Google Maps / Google Drive / Gmail / Chrome / Google Photos ก็ยังพอจะลง Apps เหล่านี้บน iOS แล้วดึงข้อมูล [Sync] ทุกสิ่งไปลงใน iPhone 7 ได้
โชคดีมากที่ Vertu อุตส่าห์ทำ App ชื่อ “Vertu Sync” ขึ้นมา, เอาไว้ใช้ร่วมกับ Apple ID !
ด้วย App นี้, ผมเลยยังคง Sync ทุกสรรพสิ่งจาก iPhone 7 ตัวเก่า / Macbook และ iCloud ได้
ไม่อย่างนั้นคงต้องขาย Vertu ทิ้งกลับไปซื้อ iPhone 7 จริงๆ
ก็ไม่ถึงขั้นเป็นข้อดีข้อเสียหรือ Review อะไร, เรียกว่าแค่ Short Note ลง Blog สั้นๆ แบบ Share ประสบการณ์มากกว่าเพราะว่าผมเองไม่ได้มีความรู้เชิง Technical มากมายและไม่ได้ทราบเหตุผลเชิงสถาปัตยกรรมโครงสร้างของ OS ?
พอลองนึกย้อนไป…
สมัยแรกๆ ที่ย้ายจาก Android Smartphone มาเป็น iOS, ตอนนั้นทุกสิ่งเหมือนจะง่ายกว่านี้ด้วยซ้ำ
เพราะผม Sync ข้อมูลจำพวกตัวอักษร [Contact & Calendar] ขึ้น Hotmail
แต่พออยู่กับ iOS นานๆ เข้า, ทุกสิ่งก็เลยฝากไว้บน Service & Apps ของ Apple Inc หมด
และมัน “ปิด” ตัวเองมากจนไม่สามารถดึงลง Android ได้อีกแล้ว [ถ้าไม่นับ Vertu Sync]
อีกเหตุผลก็คงเพราะ Apple Inc เองก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จน “ไม่ง้อ” กระทั่ง Android หรือ Google
ซึ่งผมก็คงไม่เสียเวลามานั่ง Drama ว่า “แล้ว Android หรือ iOS ดีกว่ากัน ?” เพราะปัจจุบันมันแล้วแต่การใช้งานและความถนัดจริงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้ก็คือคุณภาพชีวิตเชิง Software ของผมแย่ลงมากแม้จะใช้ Hardware ระดับ Vertu
เรื่องนี้ Vertu Concierge บอกไม่รู้จะช่วยยังไงจริงๆ