Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
เป็นเดือนที่ผมถูกปฏิเสธจาก Bank เรื่องกู้เงินซื้อ Condo มา 3 หนแล้ว, ทั้งที่ปัจจุบันก็มีตึกแถว [ซื้อเงินสดซึ่งก็เพราะ Bank ไม่ยอมปล่อยกู้ให้] / มีรถ [ก็ซื้อเงินสดอีกเช่นกัน] และมีเงินสดในบัญชีนิ่งๆ อยู่ในบัญชีออมทรัพย์โง่ๆ ราว 3 ล้าน
ยังไม่นับหุ้น / กองทุน / ประกันและสินทรัพย์ที่กองๆ รวมกัน
ไปขอกู้ 1 ล้านบาทไทย, สาว Bank ทุกธนาคารพร้อมใจกันยิ้มให้แล้วบอกว่า “ไม่ผ่านค่า !”
เพราะว่าคุณ Cookie ไม่มีความน่าเชื่อถือและดูไม่น่าจะมีปัญญาผ่อนคืนเราได้
จนตอนนี้ผมเริ่มๆ คิดจะเปิด Blog หรือไม่ก็ Website ใหม่, รวมคำปรึกษาเพื่อแก้ปัญหาชีวิตให้กับเหล่า Freelance จริงๆ
1. ไม่สามารถกู้เงินซื้อบ้าน [และเรือนหอ] ได้
มีชาว Blog หลายคนก็เป็น Freelance เหมือนกัน, บ้างก็เป็นสาว Bank และนายธนาคาร
ทุกคนให้คำแนะนำดีมากว่า “ถ้า Freelance จะกู้เงินซื้อ Condo หรือบ้านต้องมีเอกสารเยอะๆ !”
บัตรประชาชน / ใบขับขี่ / Passport / Visa / Mastercard / American Express / โฉนดที่ดิน / ทะเบียนรถ / ใบกำกับภาษี / ภงด / ใบเสร็จปั๊มน้ำมัน / Starbucks Card Gold / มรณบัตร / บัตรสะสมแต้มชาไข่มุกหน้าปากซอย
คือผมขนไปเยอะจนอยากจะให้ Uber มีบริการเรียกรถบรรทุก !
แถมยังต้องวิ่งไปหาคุณสรรพากร [ที่น่ารัก] เพื่อขอเอกสารการจ่ายภาษีย้อนหลังสามปี, เพื่อยืนยันว่ามีรายได้จริง
สุดท้ายก็ไม่ผ่านแม้แต่ Bank เดียว, ช่างเสียเวลาชีวิตแทนที่จะเอาไปทำงานหาเงินมาซื้อเงินสดเหมือนเดิม…
2. ไม่มีกระทั่งบัตร Credit Card !
พักหลังคือบ่อยมาก, ที่สาว Bank จะโทรมา [โดยเฉพาะเวลาไม่อยู่เมืองไทยและถ้ารับสายต้องจ่ายนาทีละ 80 บาท…]
เพื่อถามว่า “สนใจรับบัตร Credit Card ของธนาคารเราไปใช้ไหมค้า !”
แต่แล้วพวกนางก็จะตัดสายทิ้งทันทีอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำตอบว่า “เป็น Freelance นะครับ”
ปัจจุบันผมต้องใช้วิธี “เอาเงินไปฝากค้ำบัญชีเพื่อผู้ยากไร้จะได้มีบัตร Credit CArd เอื้ออาทร” แทน [ใครสนใจติดต่อได้ที่ SCB และ Krungsri ดังที่เคยเขียนไว้ใน Blog เก่า] แต่ก็แปลว่าต้องเอาเงินสดไปทิ้งให้มันจมเล่นไว้ราวหนึ่งแสนบาท
เป็นอีกหนึ่งความอนาถของ Freelance, โดยเฉพาะคนที่ต้องบินไปบินมา 15 ประเทศในหนึ่งปี
เพราะการไม่มีบัตร Credit Card เป็นอะไรที่อันตรายมากหากเกิด Case ฉุกเฉินที่เมืองนอกและเงินสดไม่มีวันพอ
3. ไร้ความมั่นคงและอนาคตที่ปลอดภัย
จริงๆ พักหลังผมก็เริ่มไม่ค่อยเข้าใจว่า “แล้วอะไรคืออนาคตที่ปลอดภัย ?”
ผมเป็น Freelance ที่มีรายรับหลายทาง, คงไม่มีวันที่ทุกบริษัทจะล้มพร้อมกัน [นอกจากนี้ผมยังมีหุ้น / กองทุน / อสังหาฯ และธุรกิจบางอย่างที่บอกไม่ได้, ยกเว้นเวลาไปก้มหน้าสารภาพกับคุณสรรพากรซึ่งก็โดนเรียกตัวไป Clear ติดกันมาแล้ว 2 ปี]
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ซึ่งเป็น Salary Man & Office Lady สังกัดแค่ 1 บริษัท
ในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี, ไม่รู้ว่าวันนี้พรุ่งนี้จะปิดตัวหนีหรือ Layoff พนักงานออกเมื่อไร
คำว่า “ความมั่นคง” และ “อนาคตที่ปลอดภัย”, ผมกลับรู้สึกว่า Freelance หลายๆ คนมีมากกว่าพนักงานประจำด้วยซ้ำ
ถ้าพูดเป็นภาษาง่ายๆ ของพวกธุรกิจขายฝัน, ก็คือมี Passive Income และมีไข่ในตะกร้าหลายใบนั่นแลฯ
4. ไม่มีแฟน
จบครับ, ที่เขียนมาทั้งสามข้อล้วนไม่จำเป็น /
จริงๆ เรื่องน่าอนาถของ Freelance ทั้ง 3 ข้อที่ว่านี้, ก็เกิดขึ้นในชีวิตผมช่วงหลังๆ มาได้สักปีสองปีแล้ว
เมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็เพิ่งเขียน Blog เรื่อง “เป็นคนจนยิ่งต้องจ่ายแพง : จาก Pantip สู่การซื้อบ้านเงินสด !” ไปที
และก็มีคน Shared ออกไปพันกว่าครั้ง, คงเพราะมัน “สะเทือนใจ” ไม่น้อยที่ผมต้อง “ซื้อทุกสิ่งด้วยเงินสด” จนหมดตัว [และสะเทือนใจอีกมุมคือ “ใครที่ไม่มีเงินก้อนก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยหัวโตให้กับบ้านซึ่งควรจะเป็นปัจจัยพื้นฐานไปชั่วชีวิต”]
นี่เริ่มๆ คิดจะเปิด Blog & Website ที่รวมปัญหาและคำแนะนำให้เหล่า Freelance จริงๆ
เพราะเชื่อว่าในอนาคตจะยิ่งมีคนที่เป็น “เจ้านายตัวเอง” เพิ่มขึ้น, ผมจะได้มี Blog เอาไว้ขายประกันให้กับทุกคน…