Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
แล้ว Valentine’s Day ก็ผ่านไป, เมื่อวานผมใช้เวลาเกือบทั้งวันอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์
ใครที่อ่าน Blog ผมเป็นประจำคงรู้ดีว่าส่วนตัวผมชอบการปั่นจักรยาน / เดินชม Museum & Art Gallery และนั่ง Picnic ตามสวนสาธารณะทุกครั้งที่แบกเป้เดินทางไปต่างประเทศ, ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ “เริ่มๆ” ที่จะเป็นไปได้เช่นกันในเมืองไทย…
โดยเฉพาะใน Area ที่คนต่างชาติมาพักอาศัยกันเป็นครอบครัว (◕‿◕✿)
[ไม่ใช่ Red Light District สำหรับฝรั่งเที่ยวผู้หญิงอย่างนานาหรือว่า Backpacker‘s 2nd Home อย่างข้าวสาร]
ยิ่งช่วงเดือนนี้ที่กรุงเทพฯ เข้าสู่ฤดูหนาวแบบกระทันหัน, ผมใช้เวลาในแต่ละวันอยู่ที่สวนเบญจสิริ
Benjasiri Park : ดีกว่าสวนสาธารณะอื่นๆ ตรงไหน ?
1. ผมไม่เคยเจอเด็กแวนซ์ยกล้อมอ’ไซค์ในสวนนี้และที่นี่ก็ไม่มีกลุ่มวัยรุ่นโดดเรียนมานั่งสูบบุหรี่มั่วสุมกัน, คนที่มาเดินสวนมักจะเป็นแม่บ้านชาวญี่ปุ่นกับครอบครัวหรือไม่ก็คนละแวกนี้ที่มาวิ่ง Jogging และตัวสวนก็ไม่ใหญ่มากจึงดูแลได้อย่างทั่วถึง
2. มีงานศิลปะตั้งอยู่เรียงรายในสวน, ทั้งหมดเป็นผลงานของศิลปินแห่งชาติ
[คงจะดีมากถ้าทาง Benjasiri Park จัดงาน Event ด้านนี้เป็นระยะ ψ`ー´)/]
3. อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์, แบบที่เรียกว่า BTS ลงหน้าประตูสวน
4. ตัวสวนเบญจสิริอยู่ข้าง The Emporium & The Emquartier, เดินห้างต่อ [หรือแวะไปใช้ห้องน้ำสะอาดๆ ก็ได้]
แม้ Benjasiri Park จะไม่ได้ใหญ่เท่าพวก The Central Park ใน New York แต่ผมก็ว่ามันให้บรรยากาศคล้ายกัน…
“สวนใจกลางเมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยตึกสูง“
คือนิยามหนึ่งของ The Central Park แห่ง New York City
ยิ่งในวันที่อากาศดีๆ, เราจะเห็นคู่รักและครอบครัวเดินจูงมือกันมา
ไม่ต้องมากมาย, แค่นั่งมองน้ำมองฟ้าและ “ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน”
โดยไม่มีใครต้องเสียเงิน, ความหมายคือ “สวนแห่งนี้ทุกคนมีสิทธิใช้ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งเท่าเทียมกัน”
เวลาผมไป Backpack หรือประชุมงานที่ New York, มักจะพักแถวถนน “Musuem Miles” ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ [Upper East Side] ของสวน Central Park เสมอเพราะ Area นี้มีทั้งพื้นที่สีเขียวและ Musuem ใหญ่ๆ มากมาย
ไม่ว่าจะเป็น Solomon R Guggenheim / The Met หรือ Cooper Hewitt Smithsonian (メ`ロ´)/!
“ยิ่งเมืองใหญ่ยิ่งต้องมีพื้นที่สีเขียว” คือความจริงของประเทศพัฒนาแล้วที่รู้ว่าต้นไม้ใหญ่มีคุณค่าแค่ไหน, ทั้งใน New York & Tokyo และ “พื้นที่สีเขียว” ที่เปิดให้พลเมืองเข้าใช้โดยไม่ต้องจ่ายเงินก็คือหลักฐานว่า “เมืองกำลังใช้ภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่า”
และทุกคนก็มีสิทธิเท่าเทียมกันในสวนแห่งนี้, ไม่ว่าจะยากดีมีจนเพียงใด ( ̄^ ̄)ゞ!
ใน The Central Park หรือที่สวน Benjasiri
คือความหมายของ Blog นี้, ที่นี่เป็นที่ที่สำหรับออกเดทเหมือนเมืองนอก
แค่ลงจากรถไฟฟ้า, แค่ออกจากตึกใหญ่ๆ และแค่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับคนรักหรือครอบครัว
ก่อนที่หน้าหนาวจะจากกรุงเทพฯ ไปในไม่กี่วันข้างหน้า…
[ขอบคุณกุหลาบสีน้ำเงินจาก Uber Bangkok, ส่วนภาพมุมสูงของ The Central Park มาจาก WiKipedia ครับ]