Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 3 ใบ ! > "Click"
--------------------------
“Apple has received a permit to test autonomous driverless cars in California,
the first official confirmation that the maker of the iPhone sees the century old automobile as a product that is ripe for reinvention and a reflection of its need to find new markets to sustain its growth”
ถึงเวลาแล้วที่ผู้ผลิตมือถืออันดับหนึ่งของโลกจะหันมาเปลี่ยนโฉมธุรกิจรถยนต์ยุคเก่าที่มีอายุกว่าร้อยปี
The Business Insider รายงานข่าวนี้
แต่ที่ส่วนตัวผมสนใจเป็นพิเศษก็เพราะรายชื่อผู้ได้รับสิทธิในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับทั้ง 29 บริษัทนั้น…
ผู้ท้าชิงตลาดรถยนต์ : เกือบครึ่งหนึ่งคือบริษัทสาย IT
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ Apple Inc ที่ได้รับสิทธิในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับจากหน่วยงานรัฐฯ, แต่ Google / Drive AI / NVidia / Uber [อันนี้อยู่กึ่งๆ ระหว่างสายรถกับสาย IT] และ Baidu USA เองก็ได้รับสิทธิในการทดสอบครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ร่วมกับ Brand รถชั้นนำของโลกอย่าง Volkswagen / Mercedes / BMW / Ford / Honda และ Subaru
[อีกรายหนึ่งซึ่งไม่รู้จะจัดอยู่กลุ่มไหนดีอย่าง Tesla ของ Elon Musk ก็เป็นหนึ่งใน 29 รายชื่อ]
มาถึงจุดหนึ่ง, บริษัทสาย iT เริ่มมองว่า “ตัวรถสามารถจ้างผลิตได้”
แต่ “สมองกล” หรือ AI [Artificial Intelligence] ต่างหาก, คือ “หัวใจ” ที่แท้จริง
จะว่าไปในมุมนี้, ผมรู้สึกว่ามันก็เหมือน “OS” ที่สุดท้ายก็คุมตัวเครื่อง [Hardware] ทั้งหมดไว้อีกที
Apple iCar & Apple Maps
คนไทยอาจยังนึกไม่ออกว่ารถยนต์ไร้คนขับจะทำงานอย่างไรเพราะประเทศเราไม่มีใครสนใจกฏจราจรและการวางผังเมืองก็ถือว่าแย่มากแต่ในชาติที่พัฒนาแล้ว, มันอาจไม่ยากนักหากทุกสิ่งสามารถ “Sync” ถึงกันได้อย่าง iCar & Apple Maps
[นั่นคือเหตุผลที่ทำไม Uber เริ่มหันมาทำแผนที่, Google Inc เริ่มทำตัวรถด้วยและสุดท้ายก็คงต้องรบกันเอง]
ลองนึกภาพว่าเราอยู่ใน New York City ที่ถนนแต่ละสายตัดกันตรงๆ, แบ่งเมืองเป็น Blockๆ
รถยนต์ไร้คนขับอาจ “รู้” ก่อนเราด้วยซ้ำว่าแยกนี้ไฟเขียวแต่แยกหน้ากำลังจะไฟแดงภายใน 25 วินาที
ด้วยการ Sync ระบบ Navigator ของตัวเองเข้ากับฐานข้อมูลกลาง, สั่งรถความเร็วรถก่อนถึงทางม้าลายหน้าโรงเรียน
แผนที่จะมีความสำคัญมากขึ้น, อนาคตอาจมีการขาย Ad บน Maps เพื่อโฆษณาร้านกาแฟให้พักเวลารถติดๆ ด้วยก็เป็นได้
คนไทยอาจ “ชินชา” จนไม่กล้าฝัน, บนถนนทุกๆ วันที่ต้องเจอรถคันหน้าจอดกระพริบไฟซื้อข้าวมันไก่ข้างทางโดยไม่สนว่าจะทำให้รถติดแค่ไหนและอยู่ๆ ก็มีกลุ่มเด็กแวนซ์ขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศรมาจนต้องหักหลบเข้าเลนขวาแล้วชนกับสิบล้อเมายาบ้า
แม้กระทั่ง “ทางเท้า” ยังถูกขโมยไป