Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 3 ใบ ! > "Click"
--------------------------
เห็นคนญี่ปุ่นเข้าคิวรอกินข้าวไทยแล้วมันรู้สึกดีในใจอย่างบอกไม่ถูก…
ข้าวไทยกำลังกลายเป็น Trend ใหม่ในญี่ปุ่น, ตั้งแต่ปีก่อน ตอนที่ร้าน Hotto Motto เริ่มขาย “ผัดกะเพรา” และตอนนี้ “ข้าวมันไก่” แบบไทยๆ ก็กำลังยึดพื้นที่ใน Tokyo ตามมา โดยมี “ข้าวมันไก่ประตูน้ำ” แห่ง Shibuya เป็นร้านล่าสุด !
ทุกครั้งที่ผมไป Backpack ไม่ว่าประเทศไหน, ต้องใช้เวลา 1 มื้อลองข้าวไทยและอาหารไทยในประเทศนั้นๆ
มาญี่ปุ่นคราวนี้, ตั้งใจจะไปลองร้านอาหารไทยชื่อ “Jasmine Thai“
ที่ปัจจุบันมีสาขามากถึง 7 สาขาใจกลางเมือง Tokyo, แม้แต่ในย่านสุดหรูอย่าง Ginza และ Roppongi !
ชื่อ Jasmine Thai ก็ทำให้นึกไปถึง “ข้าวหอมมะลิ” ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “ข้าวพันธุ์ดี” ที่สุดในโลก
ร้านอาหารไทยที่ใหญ่ๆ และดีๆ ในญี่ปุ่นก็ใช้ข้าวหอมมะลิเช่นกัน
[ไม่อย่างนั้นคงแปลกๆ ถ้าต้องทานแกงเขียวหวานไก่ราดลงไปบนข้าวญี่ปุ่นเหนียวๆ – -]
Jasmine Thai ที่ผมไปเมื่อวานอยู่ในเขต Ginza, ลงสถานี Mitsukoshimae ซึ่งก็อยู่ใต้ดินของ “ห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในญี่ปุ่น” แล้วออกประตูหมายเลข 6 ที่เชื่อมกับห้าง Coredo
Jasmine Thai มีคนญี่ปุ่นต่อคิวทานจนล้นออกมานอกร้าน…
กลิ่นข้าวไทยและ “ข้าวมันไก่” หอมฟุ้งกลบกลิ่นของร้านข้างเคียงโดยสิ้นเชิง :)
ผมแวะไปช่วงกลางวัน, มี Lunch Set เป็นอาหารไทยจานเดียว ในราคา 1000 – 1500 Yen
“Jasmine Thai Lunch Time” แจ่มแมวเลยทีเดียว เพราะ Menu อาหารไทยจะเปลี่ยนไปวันละ 5 อย่าง !
ผมไปวันศุกร์, ก็เลยมี “ข้าวมันไก่” ที่กำลังมาแรงสุดๆ ใน Tokyo ต่อด้วยสุกี้น้ำ / พะแนงไก่ / ข้าวสวยกับแกงเขียวหวานและผัดกะเพราไก่ไข่ดาว เป็น 5 รายการยืนพื้น ในราคา Set ละ 1000 Yen [300 บาท]
นอกจากนี้ ที่ Jasmine Thai ก็ยังมี Set กลางวันชุดพิเศษ ราคา 1500 Yen ซึ่งจะมีทุกวัน
เป็นข้าวราดปูผัดผงกะหรี่และข้าวพะแนงกุ้งไข่ดาว, ซึ่งก็คือจานของผมในภาพแรกสุด :D
ทั้งหมดใช้ข้าวหอมมะลิไทยพันธุ์ดี, หุงทีหอมไปสองร้านแปดร้าน ~
บรรยากาศในร้านก็เป็นแบบไทยๆ, มีตั้งพระพุทธรูปและภาพในหลวงรัชกาลที่ 5 ไว้บนหิ้งบูชา
คนไทยเราไม่ว่าจะไปประสบความสำเร็จที่ไหนก็ยังเป็นคนไทยจริงๆ นะครับ
และในร้าน Jasmine Thai ก็มีภาพของเบียร์ไทยอย่างเบียร์สิงห์ในแบบที่ไม่เคยเห็นในบ้านเรา, ถามดูจึงได้รู้ว่านี่เป็นภาพ Ad โฆษณาของเบียร์สิงห์ / น้ำสิงห์และข้าวพันดีที่เน้นทำตลาดประชาสัมพันธ์ความเป็นไทยให้ต่างชาติได้รู้
จึงมาพร้อมกับรูปเทศกาลประจำชาติอย่างเช่น สงกรานต์
คนญี่ปุ่นและฝรั่งที่มาทานอาหารไทยก็ได้เห็น Culture อันยาวนาน
ซึมซับความเป็นไทยไปพร้อมกับรสชาติของเบียร์และข้าวหอมมะลิ
พนักงานใน Jasmine Thai ก็เป็นคนไทยซะส่วนใหญ่
และทุกคน Friendly มาก, พอเห็นผมกับสาวไทยอีกสองคนเข้ามา ก็เฮฮา
และบอกด้วยว่า ถ้ายังเผ็ดไม่สะใจ ให้เอาพริกมาใส่เพิ่มได้นะ ^^”
แล้วก็ได้เวลาพลิก Menu ดูอาหารไทยใน Jasmine Thai ~
[จริงๆ พวกผมสามคนเล็ง Lunch Set คนละชุดเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ตอนต่อคิวหน้าร้าน – -]
ถ้าเป็นมื้อเย็นก็ต้องเตรียมงบไว้สักคนละ 3000 Yen ขึ้น เพราะข้าวผัดหนึ่งจานก็ 1500 – 2000 Yen, ต้มยำกุ้งมีสองขนาด ชามละ 1500 – 2500 Yen และกุ้งอบวุ้นเส้นก็ 1800 Yen ส่วนปลานึ่งซีอิ๊วนี่ตัวละ 2500 Yen
เรียกว่าราคาไม่ถูกครับ สำหรับอาหารไทยในญี่ปุ่น
แต่จริงๆ ผมไปมาหลายประเทศ, บอกเลยว่า ส่วนมาก อาหารไทยจะถูกจัดไว้ในขั้น “แพงสุด” เสมอ
เหมือนที่บ้านเรายกให้อาหารญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูงสุด
สรุปว่าโต๊ะผมสามคน, สั่งข้าวสวยราดแกงเขียวหวานไก่หน่อไม้ / ข้าวพะแนงกุ้งและข้าวผัดกะเพราไก่ไข่ดาว !
“อาหารสิ้นคิด” เมื่ออยู่เมืองไทย…
แต่มันคือ Menu ข้าวที่โดนใจทุกคนในญี่ปุ่น
คงเหมือนกับที่เราชอบทาน Ramen / Tempura หรือ Sukiyaki ของเขา
ทว่า สิ่งที่ต่างจากเวลาทานในบ้านเราก็คือ ที่ Jasmine Thai มันมาเป็นจานใหญ่ตาม Style ญี่ปุ่น ^^)
พะแนงกุ้งของผมก็ใช้กุ้งอย่างดี, ไม่ใช่กุ้งแช่แข็งแบบใสๆ เด้งๆ
นับรวมๆ ได้เกือบสิบตัว ผัดมาในแกงข้นคลั่กสีแดงเข้มข้น ราดด้วยน้ำกะทิด้านบน ทานกับผักเคียงอย่าง Carrot / Broccoli และไชเท้า, ส่วนข้าวก็เป็นแบบหอมมะลิพันธุ์ดี โปะด้วยไข่ดาวใบมหึมา !
เจาะไข่แดงดังจึ๊ก, ไหลเยิ้มลงมาคลุกกับข้าวสวยที่หุงร้อนๆ ~
เวลาอยู่ห่างบ้านห่างเมืองไกลๆ, แค่ได้กลิ่นของข้าวหอมมะลิก็มีความสุขแล้วจริงๆ
ยิ่งวัน ร้านอาหารไทยในญี่ปุ่นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
แม้แต่ในเขต Business District หรือย่านหรูอย่าง Ginza และ Roppongi ก็ยัง Welcome ข้าวไทย
ว่าแล้วก็สั่งเบียร์สิงห์เบียร์ไทยมาดื่มอีกสักหนึ่งขวด ~
ส่วนแกงเขียวหวานนั้นจะออกมัน เครื่องในชามก็เป็นเนื้อไก่หมักนุ่มๆ และยอดหน่อไม้อ่อนๆ
ที่ลุ้นสุดๆ ก็คือ “ข้าวผัดกะเพราไก่ไข่ดาว”
รสชาติอาจไม่เผ็ดสุดๆ แบบบ้านเรา, พริกที่ใช้ก็เป็นแบบ “พริกหยวกญี่ปุ่น” แต่รวมแล้วทำให้หายคิดถึง ด้วยไก่สับผัดกับใบกะเพราเข้าถึงเนื้อใน วางไว้ข้างข้าวสวนร้อนๆ แล้วโปะด้วยไข่ดาวฟองโตอีกเช่นเคย
กับข้าวใน Jasmine Thai อาจไม่ได้เหมือนไทย 100%
แต่ก็เป็นการปรับให้เข้ากับคนญี่ปุ่น
เพื่อให้สัมผัสกับรสชาติอาหารไทยได้อย่างมีความสุข
ปัจจุบัน เราสามารถซื้อเบียร์สิงห์ได้ในร้านสะดวกซื้ออย่าง Natural Lawson หรือ Supermarket ใหญ่ๆ และไม่ว่าจะเดินไปทางไหนใน Tokyo, ก็จะต้องเจอร้านอาหารไทย ไม่ก็ร้านข้าวมันไก่เปิดใหม่กันทุกวัน
ผมถามสาวไทยที่มาด้วย, ซึ่งเป็นล่ามมืออาชีพที่ญี่ปุ่นมากกว่า 10 ปี
ได้คำตอบว่า ณ วันนี้ ไทยและญี่ปุ่นให้ความรู้สึกเหมือน “พี่น้อง” กันจริงๆ
สิ่งนี้ยืนยันได้ด้วยตา, เมื่อผมมองออกไปจากในร้าน Jasmine Thai แล้วได้เห็นคนญี่ปุ่นต่อคิวยาว
นอกจากนี้, Jasmine Thai ยังได้รับรางวัล “Thai Select” จากกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและแม้แต่ Hostel ที่ผมพักในเขต Asakusa ก็ยังชื่อ “ข้าวสารโตเกียว” เพราะเจ้าของเคยมาเที่ยวเมืองไทยแล้วหลงใหล…
“ข้าวไทยในญี่ปุ่น”, กำลังมีคุณค่าเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาลจริงๆ ครับ