Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
おにぎり [Onigiri / โอนิกิริ] เป็นหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่ผมชอบที่สุด, ยิ่งกว่า Otoro แพงๆ หรือ Fusion Sushi คำละพันอย่างพวก Foie Gras ซึ่งก็คงเพราะว่า “ข้าวปั้นสามเหลี่ยม” เป็นอาหารที่ทำให้รู้สึกถึงความรักและความอบอุ่นใจ…
คนรักสาวชาวญี่ปุ่นบรรจงปั้นใส่ในกล่องข้าว Picnic, กับผักดองชิ้นเล็กๆ ข้างๆ ไก่ทอดและไข่หวาน
หรือบางคราวก็เป็นอาหารง่ายๆ ที่คุณแม่ตื่นมาทำให้ตอนเช้าๆ
ทุกคราวที่ไปญี่ปุ่น, ผมก็ต้องแวะออกมาซื้อ Onigiri ตอนดึกๆ ตามร้านสะดวกซื้อ
และสงคราม Onigiri ในไทยก็เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง, เมื่อทั้ง Family Mart & 7 Eleven ออก Campaign มาลุย !
[7 Eleven ตอนนี้มี Promotion ซื้อข้าวปั้นสามเหลี่ยม 2 ก้อนลดราคาอีก 7 บาท, ส่วน Family Mart นี่เก๋สุดๆ ด้วย Campaign แบบญี่ปุ่นจริงๆ อย่าง “ซื้อ Onigiri วันนี้ รับฟรี Miso Soup หนึ่งถ้วย !]
แต่ถ้าจะว่าไป, Convenience Store ไทยที่จุดกระแสข้าวปั้นสามเหลี่ยม…
น่าจะเป็น “Lawson 108” ที่พยายามเข้ามาเมื่อปีก่อน, ร่วมกับเครือสหพัฒนฯ
ทว่า ด้วยสาขาที่น้อยกว่า และดูไม่ค่อยตั้งใจทำตลาดเท่าไร
ทำให้สุดท้าย, 7 Eleven พลิกกลับมาใช้ Onigiri เป็นจุดขายแทน
พร้อมๆ กับที่เครือ Central เข้า Take Over กิจการ Famima ในไทยแล้วปรับโฉมร้านใหม่
เท่ากับว่า Top 3 ของ Convenience Store แห่งญี่ปุ่น มาชุมนุมพร้อมหน้ากันแล้วในสงครามข้าวปั้น
[และข้าวปั้นสามเหลี่ยมของ Lawson 108 ก็เป็นแบบห่อตัวสาหร่ายไว้ใน Package เลย, ทำให้สาหร่ายไม่กรอบเมื่อเทียบกับ Onigiri ของ Family Mart & 7 Eleven ทว่า ตรงนี้ก็แล้วแต่ Style และความชอบของแต่ละคนนะครับ]
ประวัติและที่มาของ Onigiri นั้น, ย้อนไปได้ถึงพันปี
แต่ที่ชัดเจนก็คือช่วง 1700s, ในฐานะเสบียงยามบ่ายของ Samurai
โดยแรกเริ่มเดิมที, Onigiri มีขนาดเล็กและเป็นทรงกลม ห่อด้วยสาหร่ายใส่ในใบไผ่เพื่อฆ่าเชื้อโรค
ส่วนไส้ก็มีแค่บ๊วย [Ume] หรือไม่ก็ปลาแห้ง [Okaka, ซึ่งเป็นของโปรดผม :)] เท่านั้น
แต่ปัจจุบัน, ข้าวปั้นได้กลายเป็นทรงสามเหลี่ยมและก็มีสารพัดไส้
อย่าง Onigiri ของ Family Mart ในไทยก็มีไส้ “ลาบแซลมอน” ด้วย…
แต่ Onigiri ของ Famima นั้น, เป็นการจ้าง “พรานทะเล” ทำอีกทอดหนึ่งครับ
ราคาก็ก้อนละ 25 บาท, ซึ่งถูกกว่าข้าวปั้นของ 7 Eleven อยู่ 2 บาท
ตอนนี้มี 4 ไส้ ได้แก่ไข่หวานใส่ไข่กุ้ง / ลาบปลา Salmon / สลัดปูอัดและยำสาหร่าย
บอกตรงๆ ว่าทีแรกผมกะว่าไม่อร่อยแน่ๆ แต่ผิดคาด…
เพราะ Onigiri ของ Family Mart ให้ไส้ข้างในแบบ “ท่วม”, โดยเฉพาะ “ไข่หวานไข่กุ้ง” ที่พอแกะห่อ Plastic ออก ก็จะเห็นสีเหลืองส้มจากด้านใน และพอกัดเข้าไปก็ได้ “ไข่หวาน” หรือไม่ก็ “ไข่กุ้ง” ทุกคำ !
ในราคา 25 บาท, ผม Confirm ว่า Onigiri ของ Famimi เกือบจะแสงพุ่งเลยทีเดียว ~
ยิ่งตอนนี้มี Campaign ใหม่, ซื้อ Onigiri แค่แก้วเดียวก็ได้ซุปเต้่าเจี้ยวฟรี 1 ถ้วย !
บอกตรงๆ ว่า Miso Soup ถ้วยเล็กๆ นี่ได้หัวใจของผมไป…
มันอาจเป็น Soup สำเร็จรูปที่ชงทิ้งไว้ในกระติกน้ำร้อน
แต่ในคืนที่ผมไป Party เมาๆ แถวทองหล่อแล้วเดินผ่าน Family Mart, แวะเข้าไปซื้อ Onigiri เป็นเสบียงระหว่างนั่ง Uber กลับบ้าน [เหมือน Samurai เลย :)] และได้ Soup เต้าเจี้ยวร้อนๆ หอมๆ ติดมือมาฟรีอีกถ้วย !
รู้สึกเหมือนนั่ง Japan Airlines ที่มีคุณแอร์ฯ สาวแสนสวยคอยเดินเติมซุปเต้าเจี้ยวฟรียังไงยังงั้น
[ส่วนไส้ไทยๆ อย่างลาบ Salmon นี่, ผมว่าประหลาด แต่ก็แล้วแต่รสนิยมของคนทานด้วยน่ะนะ]
แต่ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ !
ก่อนเข้า 7 Eleven, หน้าร้านก็จะมีใบปลิวลดราคาดังที่เห็นข้างล่างนี้แจกอยู่ ~
จากราคาเต็ม 27 บาท, ซื้อสองก้อนก็จะเป็น 54 บาท แต่มีส่วนลดให้อีก 7 บาท
เรื่องไส้ในข้าวปั้นก็คล้ายกัน แต่ของ 7 Eleven จะยังไม่มีพวกลาบและรสไทยๆ
ผมก็เลยซื้อใส้ไข่กุ้งกับไส้ปลา Salmon ย่างซีอิ๊วมาอย่างละอัน
แรกเริ่ม, ใครที่บ้านอยู่แถวสุขุมวิทหรือในเมืองอาจจะเคยเห็น “ข้าวปั้นสามเหลี่ยม” ของ 7 Eleven บางสาขาอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งผมเข้าใจเป็นการ “ทดลองตลาด” โดยใช้ “ข้าวปั้นแบบอุ่นร้อน” ในเตา Microwave ครับ
ให้เดา, น่าจะเป็นแผนการณ์รับมือกับ Lawson 108 ในช่วงแรก แต่ผลตอบรับกลับแย่
เพราะ Onigiri ของ 7 Eleven สมัยนั้นให้ไส้น้อยและสาหร่ายก็ไม่กรอบ [เพราะต้องอุ่นด้วย Microwave ด้วย]
ทว่า การกลับมาอีกครั้งของ Onigiri Mark II ไม่เหมือนเดิม, เพิ่มคำเตือนว่า “ไม่ต้องอุ่น” ด้านหลังชัดเจน !
ไส้ท่วมเช่นเดียวกับข้าวปั้นของ Famima !
ไข่กุ้งที่ทามาก็ปาดจนเกือบเต็มพื้นที่สามเหลี่ยมของข้าว, กัดแล้วเจอไส้ในคำแรก
ส่วนไส้ปลา Salmon ย่างนั้น, แม้จะเป็น Salmon เกรดปรุงสุกทั่วไปและไม่ใช่ชิ้นใหญ่ๆ แต่ก็เห็นเป็นคำๆ อย่างในภาพ โดยมีเนื้อ Salmon ให้เคี้ยวเป็นกับอยู่ 4 – 5 ชิ้น ซึ่งถือว่าผิดคาดมากครับสำหรับสินค้า 7 – Eleven
[เหลือไส้ทูน่ามายองเนสและกุ้ง Spicy ที่ยังไม่ได้ลอง, รวมของ 7 Eleven ทั้งหมดมี 4 ไส้]
เรียกว่า Slogan “อร่อยเหมือนทานที่ญี่ปุ่น” ของ 7 Eleven ครั้งนี้, ไม่โม้เกินจริง
เพราะถ้าคิดราคาก้อนละ 100 Yen, ข้าวปั้น 7 Eleven ไม่เป็นรองสาขา Tokyo แน่
แต่ถ้าถามว่าแล้ว Onigiri ของ Brand ไหนเหนือกว่ากัน ?
แม้แต่คุณ Cookie ที่ Backpack ไปญี่ปุ่นปีละ 5 – 6 รอบจนได้แฟนสาวชาว Sendai ก็ยังยากที่จะฟันธง…
เพราะสงครามข้าวปั้นคราวนี้, 7 Eleven อัดไส้มาเต็มที่และใช้ข้าวญี่ปุ่น Sasanishiki ทั้งคู่
[ใครที่เจอข้าวเละๆ หรือเหนียวๆ, ผมอยากให้ Check วันเวลาหมดอายุดีๆ ก่อนซื้อนะครับ :)]
หรือถ้าจะให้ Review แบบตรงๆ เลยก็คือ..
ผมว่า ณ ตอนนี้, Onigiri ของร้านสะดวกซื้อไทยไม่ได้แพ้ทั้ง Lawson / 7 Eleven หรือ Family Mart สาขาญี่ปุ่น หรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ [ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคงคุณภาพไปได้นานเท่าไร ?]
แต่มันก็มีความต่างนิดๆ คือไส้ที่ไม่เหมือนกัน 100%, อย่างของ Famima จะมี “รสไทยๆ” เยอะกว่า
แต่ถ้าอยากได้ Salmon ย่างซีอี๊วเปล่าๆ ไม่ปรุงรสใดๆ ก็ต้องไป 7 Eleven
ก็น่าเสียดายแทน Lawson 108 ที่ริเริ่มการทำตลาด Onigiri ในไทยเป็นรายแรกแต่กลับถูกทั้ง Famima & 7 Eleven แซงไป [แต่ถ้า Convenience Store ในญี่ปุ่น, คุณ Cookie ยังแนะนำว่า Lawson อร่อยสุด :)]
ใครทานข้าวปั้นของร้านไหนแล้วมีไส้อะไรที่ชอบบ้าง, จงมา Share กันในบัดดลฯ – -/!