Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
Est.33 อาจเป็น “The Best Craft Beer Bar” ที่ดีที่สุดในไทย…
แต่ถ้าใครไม่อยากฝ่ารถติดออกไปถึง The Nine / CDC, มันก็มีอีก Choice หนึ่งคือสั่งเบียร์ Online
ซึ่ง “WishBeer”ของฝรั่งชื่อ Jerome Le Louer ก็ตอบโจทย์ตรงนี้
โดย “WishBeer” เน้นขายเบียร์นอกกลุ่ม Imported / Craft Beer แปลกๆ ไปจนถึง Cidre
แต่ผมก็เพิ่งจะรู้เมื่อคืนว่า WishBeer ได้เปิดหน้าร้านเป็นตัวเป็นตนแล้ว, ห่างจาก BTS เอกมัยในระยะเดิน 3 นาทีและที่ผมแปลกใจที่สุดใน “WishBeer Home Bar” ก็คือการใช้ Technology เข้ามา อาทิตัวอ่านบัตร Credit Card เสียบ iPad
ดัง 2 ภาพด้านบน, เสียบบัตร K Bank Credit Card ของผมแล้วก็ใส่เบอร์มือถือลงไป…
มันก็จะส่งใบเสร็จในรูปแบบ SMS มาให้ทันที
ก็เป็น Gimmick ที่น่าสนใจดี
ให้ Feeling แบบ Beer Bar ในต่างประเทศอะไรแบบนั้น
และ WishBeer Home Bar ก็แทบไม่มีลูกค้าชาวไทย, มองไปทางซ้ายก็ฝรั่ง มองทางขวาก็ญี่ปุ่น
เมื่อรวมกับการตกแต่งแบบปูนเปลือย [Barebricks] และโต๊ะไม้, ผมว่ามันยิ่งให้บรรยากาศแบบแหล่งรวม Artists เกิดใหม่ใน New York เข้าไปใหญ่และก็มีฝรั่งหลายคนมานั่งเปิด Laptop ทำงานไปพร้อมกับดื่มเบียร์
เสียดายที่ผมผ่านร้าน WishBeer Home Bar หลังจากทานมื้อเย็นที่ The Coffee Club ใกล้ๆ กัน…
[The Coffee Club เป็นร้านกาแฟติด BTS เอกมัยที่ผมไปบ่อยๆ เพราะเขาทำอาหารฝรั่งอร่อยมากและมี Viennese Coffee ที่ผมชอบ, พอข้ามถนนมาก็เป็นบ้านใร่กาแฟและเดินอีกนิดก็ถึง “WishBeer Home Bar” ครับ]
จริงๆ ทีแรก, ผมกับคนข้างๆ ตั้งใจจะไปต่อกันที่ SkyMoon Bar ตรงสาธร
ก็เลยเรียก Uber หนึ่งคันวิ่งตรงมาทางพระโขนงเพื่อ U Turn
แต่มองซ้ายเห็นป้าย “WishBeer Home Bar” เล็กๆ อยู่ใต้ Condo ชื่อ The Loft Ekkamai
เลยเปลี่ยนใจกระทันหัน, ให้คุณคนขับ Uber วนกลับ 2 ทีมาจอดที่หน้า WishBeer Home Bar แทน
ก็เข้าไปแบบงงๆ เพราะดื่ม Carlsberg จาก The Coffee Club กันมาคนละสองขวดแล้ว
บรรยากาศดังภาพนี้แลฯ
ห้องกระจกใสใต้ Sale Gallery ของ The Lofts Condo Ekkamai, ในร้านไม่รู้สึกว่าอยู่เมืองไทยเลยแม้แต่นิด
ส่วนเบียร์ที่ขายใน WishBeer Home Bar ก็เป็นเบียร์นอกกลุ่ม Imported และ Cidre สารพัด
แบบเดียวกับที่สั่งได้จาก WishBeer Online Store
อาทิ BrewDog / Weihenstephaner / Kaiserdom / Paulaner / Hoegaarden / Lowenbrau / Hofbrau / Deus หรือ Craft Beer จากญี่ปุ่นอย่าง Coedo และ Hitachino ที่คนไทยเรียกว่า “เบียร์นกฮูก”
ส่วนเบียร์สดมี 8 ตัวเช่น Limburgse Witte / Bacchus Frambrozen / Weihenstephaner Hefe Weissbier
และที่ผมสั่งเป็น Bavaria Pilsner, เบียร์ใสๆ ในกลุ่ม Lager เหมือนสิงห์ / Asahi และ Carlsberg นั่นเอง
ราคาแก้วเล็กจะอยู่ราว 160 – 200 บาทและ 290 – 350 บาทสำหรับขนาดใหญ่ 1 Pint
[ขออนุญาตนั่งหน้า Bar ตามประสาคุณ Cookie, จะที่ไทยหรือ Backpack ไปมุมไหนของโลกก็ชอบนั่งตรงนี้]
ระหว่างที่นั่งดื่ม Bavaria อยู่, ทางร้านก็มีของแกล้มมาให้
เป็นพวกผักดองของฝรั่ง / ถั่วอบกรอบรส Wasabi และ Chips ?
แต่ที่ประทับใจสุดในการมา WishBeer Home Bar ก็คือทางร้านกดเบียร์สดเกือบทุกตัวมาให้ลองชิม, ในแก้ว Shot เล็กๆ เพื่อ Test ว่าเราชอบเบียร์ตัวไหน ซึ่งผมว่าดีมากสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ที่ยังไม่คุ้นกับเบียร์ฝรั่งโดยเฉพาะในกลุ่ม Ale
และตัวคุณฝรั่งที่อยู่หน้าตู้กดเบียร์ก็เฮฮามาก, เป็นชาวฝรั่งเศสที่เทเบียร์ไปกินเบียร์ไป…
[กำไรของร้านอาจจะหายหมดเพราะซดเอง :)]
แต่เรื่อง Ale ก็เป็นจุดที่ทำให้ผมไม่ค่อยชอบ WishBeer Home Bar เท่าไร
เพราะทั้งเบียร์สดและเบียร์นอกแบบ Imported ของที่นี่มันเน้นกลุ่ม Ale เป็นหลัก, ซึ่งผมว่ามันหวาน
หลังจากพลิก Menu และแอบดูตู้แช่เบียร์…
ก็ไม่รู้จะสั่งอะไรดี
[ทว่า ทั้งหมดนี้เป็นความชอบส่วนตัว, อย่าง Hoegaarden ที่คนไทยชอบกันนี่ผมก็ไม่ Ok เท่าไร แต่ผมจะไปชอบเบียร์กลุ่ม Lager ใสๆ จากฝั่ง Germany และ Pilsner ของฟาก Czech มากกว่าซึ่ง WishBeer Home Bar มีน้อยมาก !]
ส่วนอาหารไม่ได้ลองทาน เพราะอิ่ม Fish & Chips มาจาก The Coffee Club แล้ว
แต่ที่ WishBeer Home Bar ก็มีพวก Burger & BBQ, เน้นอาหารฝรั่งเป็นหลักครับ
และหลังจากดื่ม Bavaria Pilsner ไปหนึ่ง, ก็ต่อด้วย Schneider Weisse จนมาถึงขวดสุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้น…
คุณ General Manager โต๊ะข้างๆ ขำใหญ่…
เมื่อได้ยินผมพูดว่า “Fuller London Porter รสชาติเหมือนกินซีอิ๊วญี่ปุ่น [Shoyu] เลย”
ปรากฏว่าเขาเพิ่งมาอยู่กรุงเทพฯ ได้ 5 เดือน, เรียนภาษาไทยและพูดได้นิดหน่อย
ไปๆ มาๆ ก็แลกนามบัตรเสร็จสรรพ, นี่มันคือ Pub ในต่างประเทศเวลาที่ผม Backpack ชัดๆ
[คนที่ผมมาดื่มด้วยก็จบโทจาก USA, นางบอก Uber ให้กลับรถทันทีที่ขับผ่านร้าน…]
ใครที่อยากได้ Feeling แบบนี้หรือว่าชอบเบียร์นอกในกลุ่ม Ale และคนที่เบื่อเบียร์ตลาดอาจจะลองแวะมา WishBeer Home Bar ดู, ตัวร้านเปิดขายอาหารและกาแฟตั้งแต่ 7 โมงเช้า ก่อนจะเริ่มขายเบียร์ตอนค่ำๆ ยาวไปจนเที่ยงคืน
แต่อีกจุดที่ผมว่าน่าสนใจก็คือ WishBeer เริ่มต้นจากการที่ฝรั่งคนหนึ่งเปิดร้านขายเบียร์ Online
ก่อนจะกลายมาเป็น WishBeer Home Bar ที่มีหน้าร้านจริงๆ ในที่สุด
สำหรับแผนที่ร้านก็แทบไม่ต้องเพราะ WishBeer Home Bar อยู่ใกล้ BTS เอกมัย, ลงหน้าร้านบ้านใร่กาแฟแล้วเดินมาทางพระโขนงแค่ 3 นาทีหรือจะลองโทรจองก่อนก็ได้ที่เบอร์ 023921403 [แต่คนรับสายจะเป็นฝรั่งนะครับ :)]