Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
ผมตั้งชื่อให้เอง, หลังใช้งานครั้งแรกเมื่อ 15 นาทีก่อน
ตอนนี้รู้สึกรัก “ตู้สั่งอาหารต่อต้านมนุษย์ป้า !” ที่ McDonald’s Thailand พัฒนาขึ้นมามาก [ถึงจะไม่รู้ว่าจริงๆ มันชื่อตู้อะไรก็ตาม], จนอยากจะแบกตู้กลับบ้านเพราะมันคือความหวังของมวลมนุษยชาติในร้าน Fast Food ไทยเลยก็ว่าได้
เมื่อตอนบ่าย, ผมไปนั่งกินกาแฟที่ Starbucks ตามปรกติและคุณพี่สาวก็ฝากซื้อข้าวไก่กรอบน้ำตกของ McDo
และก็ตามปรกติเช่นกัน, ที่คิวหน้าพนักงานร้านนี้จะต้องมีสภาพเหมือนการปันส่วนอาหารในค่ายกักกัน
ระหว่างที่ถอนหายใจ, ผมก็หันไปเห็น “ตู้สั่งอาหารต่อต้านมนุษย์ป้า” ที่ไม่รู้ยกมาตั้งตอนไหน !
1. ปล่อยมนุษย์ป้าไปตามหาอนาคตของแก
ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าใครเป็นผู้ริเริ่ม “การเข้าคิว” ในเมืองไทย
และสงสัยมาตลอดว่าเขาไปเอา “ต้นแบบ” มาจากชาติไหน ?
เพราะในชีวิตการ Backpack กว่า 30 ประเทศของผม, คนญี่ปุ่น / German / American / Singaporean / Swiss หรือชาวอังกฤษจะใช้วิธี “ต่อคิวแถวเดียวยาว” แล้วค่อยไปกระจายตัวที่หน้าพนักงานเพื่อให้ “คนที่มาก่อนได้สั่งก่อนเสมอ”
ส่วนเมืองไทย, มนุษย์ป้าสามารถผลักทุกคนกระเด็นเพื่อให้ “ฉันเป็นคิวแรกเท่านั้น !”
[และคิวหน้าเราก็ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างทุกครั้ง, เช่น สั่ง Burger แต่ไม่เอาขนมปัง…]
“ตู้สั่งอาหารต่อต้านมนุษย์ป้า” ของ McDonald’s ไทยช่วยผมได้มากเพราะป้าแกได้แต่ทำหน้างงๆ แล้วหนีไป !
2. ต้อนรับ AEC, มี Menu ภาษาอังกฤษให้ !
หลังจากยืนตัวสั่นด้วยความซาบซึ้งใจอยู่หน้า “ตู้สั่งอาหารต่อต้านมนุษย์ป้า” ของ McDonald’s ไทย, ก็เริ่มมีฝรั่งเดินมามองที่ตู้แบบเดียวกันด้านหลังผมและเขาก็ตัดสินใจ Touch หน้าจอเพื่อสั่ง “ข้าวยำไก่แซบ“ หนึ่งจานทันที !
[ผมเคยเดินเข้า McDonald’s แล้วสั่งแบบนี้, สามวินาทีต่อมาเพิ่งนึกได้ว่าาที่นี่ไม่ใช่ KFC…]
จากนั้นก็เดินไปรับอาหารที่ Bar ด้านข้าง, ไม่ต้องกล่าวคำพูดใดๆ นอกจาก “Kob Kun Krab !”
ผมเดาว่า McDo ไทยน่าจะติดตั้งตู้สั่งอาหารต่อต้านมนุษย์ป้าไว้แค่ตามสาขาใหญ่ๆ หรือไม่ก็จุดที่นักท่องเที่ยวเยอะๆ
นอกจากจะเพิ่ม “โอกาส” ให้ลูกค้าต่างชาติเข้าร้าน, ก็ยังลด “Human Errors” จากการสื่อสารได้อีก
และต่อไปผมจะเลิกจ้าง “เด็กไทยที่จบตรีแต่พูดอังกฤษไม่ได้”, เอาตู้นี้ไปตั้งทำงานแทน
3. ตัดบัตร Credit Card, ไม่ลำบากเรื่องเงินทอน
เชื่อไหมครับว่าผมไม่ได้ใช้ “เงินสด” มาเป็นสัปดาห์แล้ว
เพราะส่วนตัวค่อนข้างดื่มบ่อย, ไปเที่ยวกลางคืนก็เรียก Uber ซึ่งก็ตัดบัตร Credit Card
ส่วนกลางวันก็นั่งทำงานใน Starbucks, จ่ายเงินผ่าน App
เวลาโอนเงินก็ทำบนมือถือ, สั่งซื้อ iPhone 6S จาก Apple Store Online หรือแม้แต่จอง Hostel ในญี่ปุ่นคืนละ 5 ร้อยบาทระหว่างหลงทางก็ยังทำบน Mobile และข้อดีที่ “เงินไร้สาย” เหนือกว่า “เงินจริง” มากก็คือ “มันไม่มีเศษเหรียญ”
ยังไม่นับเรื่องที่มีใบเสร็จชัดเจน, เก็บไปทำบัญชีรายรับรายจ่ายก็ง่ายและก็ลด Human Errors ได้อีกเช่นกัน
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่ต้องแลกเงิน
4. เร็ว…
ย้อนกลับไปดูภาพแรกของ Blog ได้, ทั้งสาขามีผมใช้ “ตู้สั่งอาหารต่อต้านมนุษย์ป้า” นี้อยู่คนเดียว
ทั้งที่มีคิวลูกค้าต่อคิวปันส่วนอาหารกันน่าจะราวๆ 20 คน !
อาจเพราะพวกเขาไม่มีบัตร Credit Card, หรือไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงกับอะไรใหม่ๆ
[ในขณะที่ผมค่อนข้าง Friendly กับ Technology เป็นการส่วนตัวอยู่แล้วด้วย]
ทุกคนก็แย่งคิวกันไปโดยมีมนุษย์ป้าผู้ยิ่งใหญ่, ใช้ความหน้าด้านตะโกนสั่งอาหารแล้วโวยวาย
แต่เอาจริงๆ, ผมก็ไม่คิดว่านวัตกรรมอย่าง “ตู้สั่งอาหารต่อต้านมนุษย์ป้า” ของทาง McDonald’s ไทยจะอยู่ให้ผมใช้งานด้วยความซาบซึ้งใจได้นานสักเท่าไรเพราะมนุษย์ป้าเองก็พยายามทุกวิถีทางที่จะล้มตู้ที่ว่านี้ด้วยการเรียกทัพเสริม…
นั่นคือ “เด็กลิง” ที่พร้อมจะวิ่งเข้ามา “ทุบจอ” ตู้สั่งอาหารต่อต้านมนุษย์ป้าด้วยความสะใจ, ผมก็ได้แต่สวดภาวนาต่อพระเจ้าแห่งไก่ทอดว่า “ขอให้อย่างน้อยตู้ใบนี้ก็ใช้ Technology กระจก Gorilla Glass ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท APEple Inc !”
ก่อนจะแวะซื้อข้าวยำไก่แซบกลับบ้านครับ,