Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 3 ใบ ! > "Click"
--------------------------
ถ้า “การสั่งกาแฟ Starbucks“ มันยากนัก, ผมว่าวิธีซื้อ Sandwich จาก Subway นี่ซับซ้อนเข้าไปอีกแสนสองหมื่นเท่า
ตอนเข้า Subway ครั้งแรก, ผมต้องแอบยืนดู Menu…
พนักงานที่มองมาด้วยสายตาจ้องจับผิด [คิดไปเอง], รายชื่อ Sandwich และ Sauce ที่เขียนด้วยภาษาดาวนาบู !
ถ้าเมืองไทยมีการมอบรางวัลให้ร้าน Fast Food ที่ “Menu มีความ Friendly ต่ำที่สุด”, ผมขอเสนอชื่อให้ Subway Sandwich ได้เข้าชิงตำแหน่งติดกัน 2 พันปีซ้อนเพราะทุกทีที่ผมเดินเข้าไปจะต้องมีคนร้องไห้วิ่งหนีออกจากร้านเสมอ !
[เวอร์ไปนิดแต่ผมว่าวิธีสั่ง Subway มันยากจริงๆ และ Sandwich ของร้านนี้ก็ดันอร่อยด้วย]
วิธีสั่ง Sandwich ในร้าน Subway
1. ยืนมองจากที่ไกลๆ, ดู Menu บนป้ายก่อนว่าจะสั่งอะไรดี [ถ้าคิดไม่ออกให้เลื่อนลงไปอ่าน “Sub of the Day”]
2. เดินไปที่ป้าย “Please Order Here !” และบอกชื่อ Sandwich ที่ต้องการ
3. บอกขนาดของขนมปัง, เลือกได้ระหว่าง 6 นิ้วและ 12 นิ้ว [ซึ่งผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ทาน 6 นิ้วก็น่าจะอิ่มพอดี]
4. เลือกชนิดของขนมปังที่มีทั้ง Wheat [ผมชอบ] / Italian / Sesame [งา] / Honey Oat [มีเนื้อกรุบๆ เคี้ยวสนุก] และ Parmesan Oregano [ชอบที่สุด !] ซึ่งก็ต้องลองทานไปเรื่อยๆ ว่าเราชอบแบบไหนหรือเข้ากับไส้ที่เป็นเนื้ออะไร
5. พนักงาน Subway จะถามว่า “ให้อบร้อน [Toast] เลยรึไม่ ?”
6. ถ้าเราต้องการนั่งทานในร้านหรือทานในวันนั้นเลยก็อบ, แต่ถ้าจะเก็บไว้ทานวันรุ่งขึ้นก็ยังไม่ควร
[ซึ่งถ้าใครไม่อบขนมปังเพราะจะเก็บไว้ทานมื้อต่อไปก็สามารถขอทางร้านให้ “แยกซอส” ได้]
7. จากนั้นก็เลือกผักที่จะใส่ใน Sandwich, สามารถ “ชี้” เอาเฉพาะผักที่เราอยากทานจริงๆ ได้เลยแต่ส่วนตัวผมมักจะ “ใส่หมดทุกอย่างครับ !” เพราะว่าทานผักฝรั่งได้ทุกชนิดรวมทั้งพวกแตงกวาดอง / พริกดองและมะกอกดองด้วย
ถ้าใครไม่มั่นใจก็ไม่ต้องเอาผักดองหรือจะบอกว่าขอแค่ชิ้นเดียวมาลองก็ OK
8. เลือก Sauce , ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดเพราะ Subway ให้ใส่ได้ถึง 3 ซอส !
[อ่านเรื่อง Sauce ต่อในหัวข้อถัดไป]
9. แล้วพนักงานก็จะถามว่า “รับเครื่องดื่มหรือ Cookie ไหม ?”, ซึ่งส่วนใหญ่จะราคาถูกลงถ้าสั่งเป็น Set
10. จ่ายเงิน, ยกไปทานและอย่าลืมเก็บกวาดเอง เช่นเดียวกับที่ KFC / McDonald‘s & Starbucks
ซอสไหนอร่อยสุดใน Subway Sandwich ?
Sauce หลักๆ ของร้านนี้ก็ได้แก่ซอสมะเขือเทศ / ซอสพริก / Mustard [เผ็ดหน่อยๆ] / Honey Mustard [เพิ่มหวานเปรี้ยวเข้ามา] / Sweet Onion [หวานเลยทีเดียว] / Red Wine Vinegar [เปรี้ยวชัดมักจะทานกับเนื้อวัว] / ซอสพริก
Thousand Island [หวานนิดเปรี้ยวหน่อย] / Mayonnaise และ Chipotle Southwest [เผ็ดๆ แบบ Mexican]
ถ้าเราทานครั้งแรกก็ใส่แค่ Sauce เดียวดีกว่า…
ส่วนมากผมจะใส่ Chipotle Southwest [อ่านว่า “ชิโปเล”, ไม่ใช่ “ชิพโพเทิล”] กับ Honey Mustard
ถ้าใครใส่ไส้ Sandwich เป็นพวกเนื้อชิ้นๆ อย่างไก่หรือHam, ทานกับซอส Mustard / Honey Mustard ก็ดี
ส่วน Tuna ก็น่าจะเป็น Southwest Chipotle และ Red Wine Vinegar สำหรับเนื้อวัว
ยากไป / ไม่รู้จะสั่งอะไร / ขอ Menu ที่ราคาถูกสุดได้ไหม = Sub of the Day !
ถ้า 10 วิธีสั่งด้านบนยังคง “ต่างดาว” มากเกินไปหรือวันนี้ขี้เกียจมานั่ง “Customize” กระทั่ง Sandwich…
Subway ก็มี Menu พิเศษประจำวันในราคาแค่ 69 บาทสำหรับขนมปังขนาด 6 นิ้ว !
โดยจะเปลี่ยนไส้ทุกวัน, Sub of the Day วันจันทร์จะเป็น Chicken Teriyaki / วันอังคารก็ Sliced Chicken Chilli / วันพุธคือ Tuna / วันพฤหัสฯ คือ Slicked Chicken & Ham / วันศุกร์ใช้อกไก่ย่าง / วันเสาร์ใหญ่หน่อยแบบ BLT
และวันอาทิตย์คือ Sliced Chicken
ก็สั่งเลยว่า “Sub of the Day หนึ่งอัน !”, แล้วก็เลือกขนมปังกับซอสเหมือนเดิม
คำว่า “Sub” ก็ย่อมาจาก “Submarine Sandwich” เพราะหน้าตาของขนมปังมันเหมือน “เรือดำน้ำ” นั่นเอง
[บางครั้งก็มีเป็น Set อื่นๆ ด้วยเช่น “Star Wars Set” ที่มาพร้อมกับ Soft Drink ขนาด 22 Oz และพวงกุญแจ Darth Vader…, แต่ไม่ว่าจะสั่ง Set หรือ Sub of the Day ก็ต้องเลือก “ชนิดขนมปัง” กับ “ซอสหนึ่งถึงสามอย่าง” เช่นกันครับ]
ใครที่อยากลอง Subway Sandwich แต่คิดไม่ออกว่าจะทานอะไรหรือรู้สึกว่าสั่งยากไป,
ก็ Bookmark หน้า Blog นี้ไว้ !
ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบ Subway เพราะมันเป็น Fast Food ที่มีผักเยอะ [เมื่อเทียบกับพวก KFC / McDo]
คุณภาพอาหารก็ถือว่าดีที่ราคา 69 บาทสำหรับ Sub of the Day
และหลายๆ สาขาที่ผมผ่านประจำอย่างปากซอยทองหล่อ / BTS พร้อมพงษ์ก็เปิดกันทั้งวันทั้งคืนตลอด 24 ชั่วโมง
หวังว่า Blog นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่ไม่รู้จะสั่ง Subway อย่างไรนะครับ :)