Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
เชื่อว่าน่าจะมีคนไม่น้อยที่หงุดหงิดหัวใจเหมือนผม
และคนที่ทำงานด้านร้านอาหารน่าจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้, หากผ่านมาอ่าน Blog นี้
ผมนั่งอยู่ Starbucks Nusasiri Ekamai, กำลังนั่งหาสถานที่สำหรับมื้อค่ำวันนี้กับสาวชาว Blog คนหนึ่งแบบกระทันหันและ 2 ร้านที่ผมนั่งประจำแถวนี้ก็คือ “The Coffee Club” กับ “Wishbeer HomeBar [ซึ่งเพิ่งจะย้ายไปพระโขนง]”
เช่นเคย, ผมก็เปิด Facebook เข้าไปดู Fanpages ของ 2 ร้านนี้ก่อน
และก็เช่นเคยอีกเช่นกัน, สี่เรื่องที่ชวนเซ็งจิตก็ยังคงอยู่ !
1. ทำไมร้านอาหารไม่ลง Menu บน Facebook !
ใครทราบวานบอก…
ปัจจุบันโลกเรามัน Complicated ขึ้นมาก, โดยเฉพาะเวลาที่ผมต้องพาคนไม่รู้จักหรือคนต่างชาติไปทานร้านอาหารติด BTS สักแห่งแบบฉุกละหุกและทุกครั้งมันก็จะต้องมีปัญหาเช่น “ทานเนื้อวัวไม่ได้” หรือ “เป็นอิสลาม” และ “Vegetarian !”
หรือผมเองก็ไม่ทานสัตว์ใหญ่เวลาอยู่เมืองไทย, ทั้งหมูทั้งวัวทานไม่ได้ [แต่ปลาวาฬปลาฉลาม OK…]
หลายๆ คนอยากดู Menu ก่อน, เพื่อความมั่นใจว่า “จะไม่มีปัญหา” เวลามากันหลายๆ คน
หรืออย่างวันนี้ที่ผมต้องการจะ “ดื่ม” เบาๆ, ก็อยากรู้ก่อนว่าร้านไหนมีขายเบียร์ / เหล้า / Wine ตัวไหนอย่างไรบ้าง
และการไม่มี Menu บน Facebook ร้านก็แปลว่า…
2. ไม่ลงราคาอาหารบน Facebook !
Okay, หลายท่านที่อ่าน Blog ผมอาจไม่ได้เป็นลูกค้ากลุ่มที่ Price Sensitive เท่าไร
แต่การดูราคาก่อนก็เพิ่มความสบายใจ, เวลาที่เรานัดไปทานกันหลายๆ คนกับเพื่อนที่ Office หรือลูกค้า
ผมมั่นใจเลยว่าคนปัจจุบันไม่น้อยที่ Search หาราคาอาหารก่อน, สิ่งที่พิสูจน์ชัดเจนก็คือ Blog ที่มีคนอ่านเยอะสุดทุกๆ ปีของผมคือ “Starbucks Menu 2016” ที่มาพร้อมภาพถ่ายชนิดกาแฟ / ราคา / วิธีสั่งและ Update ทุกๆ สองเดือน
ร้านที่วาง Position ตัวเองว่า “บนสุดๆ” อาจไม่ว่ากัน
แต่ร้านสามัญชนคนทำงาน, การมี Menu และราคาอาหารอย่างชัดเจนจะช่วยตัดสินใจได้อย่างมาก
ซึ่งมันก็ไม่ยาก, แค่ถ่ายภาพ Menu แบบเป็นเล่มๆ ให้ชัดเจนหน่อยแล้ว Upload ขึ้นเป็น Folder หนึ่งก็พอ
3. ไม่ตอบข้อความลูกค้า
จนบางทีผมงงว่า “แล้วมาเปิด Facebook ทำไม ?”
ก็อาจมีคนโวยทันทีว่า “ก็โทรหาสิ !”
ครับ…
บางครั้งเราอาจไม่ได้อยากโทร, ไม่สะดวกโทรหรือไม่ได้อยู่หน้าโทรฯ [เช่นเวลาที่ผมนั่งเขียน Blog นี้ที่หน้า Macbook] และอย่าลืมว่าการคุยผ่าน Facebook Chat ยังสามารถส่ง Link แนะนำ Menu อาหารเด่นประจำร้านเพื่อโฆษณาเพิ่มได้อีก !
เอกมัยมีร้านอาหาร / Cafe และ Wine Bar ประมาณสี่ล้านเจ็ดแสนแปดหมื่นหกพันเจ้า
ร้าน A ไม่ตอบ, ผมก็ไปร้าน B / C / D / E / Z และอาจไม่วนกลับมาหา A อีกเลยก็เป็นได้
4. ไม่มี Website
เราอยู่ในโลกแห่ง Social Networks มากเกินไป
จนหลายๆ คนและหลายๆ Brands ลืมไปแล้วว่า Website คืออะไร ?
แต่ผม [ในฐานะที่เป็น Consultant ด้าน Online Marketing ให้หลายบริษัท], มักจะบอกเสมอว่า “Facebook FanPage แทน Website ไม่ได้ !” เพราะ Facebook มีหน้าที่ “ยิง” ข่าวสารใหม่ๆ ขึ้นไปอยู่ด้านบนๆ แต่ไม่มี “โกดัง” รวมข้อมูล
แผนที่ร้าน / รายการอาหาร [Menu] / Wine List และอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่หล่นหายไปจาก Timeline
และอย่าลืมว่า Facebook Inc คือ “ศัตรู” ของ Google Inc ซึ่งมี Social Network ของตนเช่นกัน
การทำ Content แค่บน Facebook จึงไม่ค่อยถูก “ค้นเจอ” บน Google Search Engine…
อาจดู “เรื่องมาก” แต่โลกเรามันพัฒนาไปทุกวันพร้อมๆ กับ “ความซับซ้อน” ที่หลากหลายมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องอุปนิสัยการใช้ชีวิตและความ “เรื่องมาก” ในการเลือกกิน, ร้านใดที่ “ละเอียดอ่อน” เรื่องนี้ก็ย่อมจะมีสิทธิได้ลูกค้ากว้างกว่า…
อีก 2 อย่างที่อย่าลืมเขียนไว้บน Facebook ก็คือ “แผนที่” และ “เบอร์โทร” ครับ