Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
– Updated 25 Sept 2015, หนึ่งปีผ่านไปและ iPhone 6S Blogger Review : รีวิวไทยที่แรกจาก Tokyo !“
ใช้ iPhone 6 Plus ใน Tokyo มาหนึ่งวันหนึ่งคืน และก็มากพอที่จะเห็น “ข้อเสีย” ของมันหลายอย่าง, แม้ว่า Websites มือถือของจริงที่เมืองนอกจะมอบรางวัล “กล้องดีที่สุดในโลก” และ “จอ LCD สวยที่สุดในโลก” ให้
แต่บอกตามตรง, ผมไม่คิดว่า iPhone 6 Plus จะเป็นโทรศัพท์ที่ “เหมาะสำหรับทุกคน”
ทว่าด้วยราคาที่แพงกว่า iPhone 6 แค่ 10000 Yen, คนคงรู้สึกว่า “ซื้อ iPhone 6 Plus เลยไม่ดีกว่ารึ ?”
และนี่คือ Review ในมุมมองของคนที่ชอบ Apple, แต่ก็จะเขียนถึงข้อเสียที่ผมไม่ชอบแบบไร้ Bias ครับ
1. จอ iPhone 6 Plus ใหญ่เกินไปและ Interface ของ Apps ต่างๆ วางปุ่มอยู่ด้านบน
ผมเคยเขียนชมว่า iPhone & iOS ตัวเก่าๆ ออกแบบมาดีมากสำหรับการใช้งานมือเดียวได้ในทุกสถานการณ์และสะดวกกว่าฝั่ง Android ที่ต้องมีปุ่มหลักถึง 3 ปุ่มด้านล่าง รวมทั้งปุ่ม “Back” ด้วย
แต่ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นใน iPhone 6 Plus เพราะ Apps ทุกตัวมันออกแบบมาสำหรับ iPhone จอเล็ก
เช่น Facebook ที่วางตำแหน่งปุ่มถอยกลับและปุ่ม Done ไว้ซ้ายบน – ขวาบน
ถ้าเป็น Android, เลวร้ายที่สุดยังไงก็ใช้ปุ่ม Back ด้านล่างสุดของจอได้
แต่ iPhone 6 Plus ต่อให้ใช้ Reachability Mode [กดปุ่ม Home สองที], ย่อส่วนจอ ก็ยังไม่ถนัด
เพราะถึงจอจะย่อส่วนแนวตั้ง แต่แนวนอนยังกว้าง, การกวาดนิ้วซ้ายไปขวา จะส่งผลถึงข้อต่อไป…
2. iPhone 6 Plus ใหญ่ไม่พอ, ยังบางและลื่นมือด้วย
Design ใหม่หมด, ปรับขอบรอบข้างให้เป็นแบบมนและตัด Material แบบกระจกด้านหลังทิ้งไป ทว่า ทั้งหมดนี้ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า iPhone 6 Plus ลื่นหลุดจากมือได้ง่ายกว่าเดิมเสียอีก
ยิ่งตัวเครื่องบางแต่หน้ากว้าง, ก็ยิ่งลำบากในการใช้มือเดียว
[อาจมีคนค้านว่า iPhone 6 Plus ออกแบบมาสำหรับสองมือ, ถ้าอย่างนั้นจะมี Mode มือเดียวใส่มาทำไม ?]
ตรงนี้ผมบอกตรงๆ เลยครับว่าส่วนตัวชอบ iPhone 6 4.7 นิ้วมากกว่า
เพราะ Life Style ผมคือ Blogger + Backpacker, การใช้งานถ่ายภาพมือเดียวคือสิ่งสำคัญ
ดังนั้น ก็จะขอย้ำอีกทีว่า iPhone 6 Plus ไม่ใช่ “โทรศัพท์ที่เหมาะสำหรับทุกๆ คน”
3. กล้องนูนขึ้นมามากกว่าที่คิด
จริงๆ กล้องของ iPhone 6 Plus ก็แค่หนากว่าพื้นผิวด้านหลังราว 1 mm เท่านั้น
แต่พอใช้งานจริง, ปรากฏว่ามันเป็น 1 mm ที่ชัดเจนมาก
ขนาดที่วางบนพื้นราบแล้วมันไม่เรียบไปตามพื้น
กลายเป็นจุดหนึ่งที่ต้องระวัง, สำหรับผมซึ่งเป็นคนใช้มือถือแบบไม่ใส่ Case ใดๆ [ใครที่ใส่ก็ไม่ว่ากัน แต่อย่าลืมว่ามันอาจทำให้ iPhone 6 Plus ทั้งหนา / หนักและใหญ่เข้าไปอีก ยิ่งถ่ายภาพมือเดียวยาก !]
ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมแปลกใจจริงๆ ว่าทำไม Tim Cook ถึงไม่สามารถทำให้ชุดกล้องเล็กลงกว่านี้ ?
แต่เรื่องคุณภาพรูปถ่ายจากกล้อง iPhone 6 Plus ยังถือว่าเป็น “No.1” ของโลกครับ
4. Design ของ iPhone 6 Plus กลับไม่ถนัดในการใช้งานแนวนอนสองมือ
นี่ก็เป็นอีกอย่างที่ผมแปลกใจใน Design แบบใหม่หมดของ iPhone 6 Plus ซึ่งน่าจะถูกปรับให้ใช้งานแนวนอนแบบสองมือได้ดีกว่า iPhone รุ่นเก่าๆ แต่เอาเข้าจริงก็มีจุดที่ขัดใจหลายอย่าง
เช่นลำโพงที่มีตัวเดียวอยู่ด้านล่างขวาของเครื่อง
เมื่อหมุนมาใช้งานแนวนอน, มือขวาของเราจะบังลำโพงตัวนี้แทบจะมิด
อีกอย่างก็คือ Lens กล้องที่อยู่ด้านซ้ายบนติดกับขอบเครื่อง
หากจับ iPhone 6 Plus ถ่ายรูปแนวนอน [ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าถ่ายมือเดียวแนวนอนมันยากมาก]
โอกาสที่อุ้งมือซ้ายจะบังกล้องก็มีสูง ซึ่งนั่นยังไม่แย่เท่าการเผลอไปบังไฟ Flash ครับ
5. Battery ของ iPhone 6 Plus ไม่ทนเท่าที่คิด
iPhone 6 Plus มาพร้อม Battery ความจุ 2915 mAh แบบฝังในตัวเครื่อง, ด้วยความจุเท่านี้ ทำให้ทุกคนมีความคาดหวังว่ามันจะใช้งานต่อเนื่องได้นานเป็นวันโดยไม่ต้องพึ่ง Powerbank
ซึ่งชั่วโมง Standby ของ iPhone 6 Plus ก็อยู่ในระดับ OK
แต่จากการ Test & Review ของ Websites เมืองนอกหลายที่, ก็ให้ผลตรงกัน
ว่า Battery ของ iPhone 6 Plus ใช้งานได้ทนทานแค่พอๆ กับ Galaxy S5 / One M8
ตรงนี้ผม Confirm ซ้ำว่าจริง, ด้วยการใช้ iPhone 6 Plus คู่ไปกับ Galaxy J DoCoMo
ยิ่งผมซื้อ SIM Card ใช้งาน 4G LTE อยู่ที่ญี่ปุ่น, สรุปครับว่า iPhone 6 Plus ต้อง Charge ไฟทุกวัน
6. มันแพง…
ข้อนี้คงไม่ต้องอธิบาย
การที่ iPhone 6 Plus จอใหญ่, ทำให้ Tim Cook มีตลาดที่สูงกว่า iPhone 6 ขึ้นไปอีกระดับ
และหลายๆ คนก็คงรู้สึกเหมือนผม ว่าถ้าจ่ายเพิ่มอีกแค่ 10000 Yen [3000 บาท] แล้วได้ “iPhone 6 Plus” แทนที่จะเป็น “iPhone 6“, มันก็ดูคุ้มค่า [แม้ว่าจริงๆ แล้วผมจะชอบ iPhone 6 4.7 นิ้วมากกว่า]
iPhone 6 Plus 16GB ของผมซื้อมาราคา 79800 Yen, เมื่อบวกภาษีอีก 8% ก็จะเป็น 86184 Yen
ซึ่งก็คือ 25500 บาทไทย
ถ้าเป็น iPhone 6 Plus 128GB ที่ราคา 99800 Yen, เมื่อบวกภาษีและคิดเป็นเงินไทยก็ 32000 บาท…
ว่ากันตรงๆ แบบ No Bias, ผมซื้อตั๋วบินมาญี่ปุ่นเองและจ่ายเงินซื้อ iPhone 6 Plus เอง
ก็ไม่ต้องเกรงใจกัน
แม้ว่าผมจะชอบ Apple Inc แต่ข้อเสียที่เป็นเรื่องจริงก็คือเรื่องจริงอยู่ดี
และผมก็ยังคงคิดว่า iPhone 6 Plus มันแพงพอควรสำหรับรายได้เฉลี่ยคนไทย
ถึง iPhone 6 Plus จะเป็นมือถือที่ดีที่สุดในโลก แต่ถามว่าจำเป็นต้องจ่ายถึง 3 หมื่นให้มันไหม ?
และยิ่งผมเองก็คิดว่า iPhone 6 Plus ก็ไม่ใช่ “SmartPhone ที่เหมาะสำหรับทุกคน” อยู่แล้วด้วย, ดังนั้น เราอาจจะลดงบลงมาหา iPhone 6 4.7 นิ้วหรือไม่ก็ iPhone 5C / iPhone 5S ตัวเก่าที่ใช้มือเดียวง่ายกว่า
อย่าไปถึงขั้นขายตัวขายไต โดยเฉพาะใครที่ยังไม่มีปัญญาหาเงินมาซื้อด้วยตัวเอง
ผมเองกลับจากญี่ปุ่นวันที่ 30 Sept นี้ ก็มีบินไป Backpack @ New York ต่อวันที่ 1 Oct, คงไม่มีโอกาสได้ขาย iPhone 6 Plus ทิ้ง แต่จริงๆ ตั้งใจว่าหลังจากลองใช้จนพอแล้ว ผมอยากไปซื้อ iPhone 6 แทนมากกว่าครับ
Update : สุดท้ายผมมา Backpack ที่ USA และซื้อ iPhone 6 ที่นี่, มีวิธีซื้อด้วยบัตร Credit ไทยมา Share !
5 Replies to “iPhone 6 Plus Review : 6 ข้อเสียที่ทำให้เริ่มอยากขายทิ้ง”
Comments are closed.