Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
Update [4 Oct 2016], พอดีวันเกิดปีนี้มีคนให้ Vertu มาแทน iPhone 7 และยังไม่เห็นใครเขียน Review !
ผมขาย iPhone 7 Plus ทิ้งไปแล้วเพราะมันใหญ่จนเป็นภาระ [แน่นอนว่าเรื่องนี้ขึ้นกับ Life Style การใช้งานส่วนตัวแนว Backpacker] และกำลังคิดจะขาย iPhone 7 ตามไป, หลังจากใช้งานจริงมา 3 Weeks ตั้งแต่มันขายวันแรกที่ญี่ปุ่น !
เพื่อนผมคนหนึ่งที่ซื้อ iPhone 7 พร้อมๆ กัน, ให้ Comment ง่ายๆ สั้นๆ ว่า “มันเป็นมือถือที่ดีแต่น่าเบื่อ”
และผมเห็นด้วยอย่างมากว่า “จริง…”
ยิ่งถ้าใครกำลังรอ iPhone 7 & iPhone 7 Plus เข้าในไทยกลางเดือน Oct 2016, น่าจะลองอ่านดู
15 วันผ่านไป : ไม่มีใครรู้ว่าผมใช้ iPhone 7
ในอีกแง่หนึ่งก็แปลว่า “มันเหมือนเดิมขนาดนั้น !”
ทั้งที่ผมก็ออกงาน Party & Event เกือบทุกวัน
จนบางทีผมยังนึกว่า “หรือที่ซื้อกลับมาจากญี่ปุ่นคราวนี้คือ iPhone 6S !”
ยิ่งในฐานะที่ใช้ iPhone 6 & iPhone 6S มา, หน้าตาของ iPhone 7 ที่เหมือนเดิมทุกประการยิ่งทำให้รู้สึกว่ามัน “น่าเบื่อ” และสิ่งที่เพิ่มมาใหม่ใน iPhone 7 จริงๆ ก็คือสิ่งที่ไม่เห็นผลชัดเจนไม่ว่าจะเป็น CPU ที่เร็วขึ้นนิดหรือจอที่สว่างขึ้นหน่อย
ไปจนถึงกล้องที่แม้ถ่ายเทียบกับ iPhone 6S, ก็ยังไม่เห็นความต่าง [iPhone 7 Plus อาจเห็นผลบ้างก็ Optical Zoom]
ยิ่งถ้าใครไม่ได้เก่งเรื่อง iT มากมายหรือไม่ได้ใช้ iCloud, การต้อง Backup แล้วย้ายเครื่องใหม่ทุกๆ ปีมันก็…
เพราะไม่มีใครเปลี่ยน Macbook ทุกปี
และคงเป็นสิ่งที่ Tim Cook ตั้งใจจะให้เกิดขึ้นกับ iPhone 7 เช่นกัน
มือถือปัจจุบันมีหน้าตาไม่ได้ต่างอะไรจากสมัย 3 – 5 ปีก่อน
ตั้งแต่ตอนที่ Android [ตามมาด้วย iPhone] ขยับหน้าจอขึ้นมาเป็น 4.7 – 5.0 นิ้ว, เท่ากับขีดจำกัดของมือมนุษย์และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เท่าไรซึ่งก็คล้ายกับ Laptop & Macbook ที่ Design ก็คล้ายๆ กับ 10 ปีที่แล้ว
Nikkei Japan เคยรายงานข่าวว่าจากนี้ไป, Design ของ iPhone จะปรับทุกๆ สามปี
แปลว่าใครที่ใช้ iPhone 6 หรือ iPhone 6S อยู่, จะแทบไม่รู้สึกเลยว่า iPhone 7 มีอะไรใหม่
ซึ่งจากการใช้งาน iPhone 7 จริงมา 15 วัน, ยืนยันว่ามันจริง…
ความสมบูรณ์แบบของ iPhone เริ่มย้ายไปที่ App & iOS
เพราะจอของ iPhone 7 ก็เท่ากับ iPhone 6 และ iPhone 6S, ทั้งขนาดทั้งความละเอียด
ผมจึงรู้สึกเหมือนถือเครื่องเก่ามา 15 วัน
และ Game & Application ส่วนใหญ่ใน Apple App Store ก็รันบน iPhone รุ่นเก่าอย่าง iPhone 6 / iPhone 6S / iPhone SE ได้ดีอยู่แล้ว, ตัว Developer ที่พัฒนา Software เองก็พยายามทำให้เป็นเช่นนั้นเพื่อให้ฐานลูกค้ากว้าง
ลองลง PokemonGo, ไม่มีความต่างเลยบน iPhone 7 ใหม่ของผมและ iPhone 6S ใหม่ของคุณพี่สาว
[มันคือ iPhone 6S ที่ผม Claim มาจาก Apple Store Ginza ด้วยอาการ “ขอบจอมืด” นั่นเอง]
และแม้กระทั่งที่สิ่งเก่าๆ ที่เพิ่มมาใน iPhone รุ่นก่อนๆ อย่าง Apple Pay ก็ยังใช้งานจริงในไทยเราไม่ได้ด้วยซ้ำ
การตัดช่องหูฟัง 3.5 mm : เรื่องเล็กๆ ที่สุดจะน่าเบื่อในชีวิตจริง !
สิ่งใหม่ที่เพิ่มมาใน iPhone 7 ไม่ชัดเจน
แต่สิ่งที่ตัดทิ้งไปสร้างปัญหาให้กับการใช้งานของผมมาก, ดังที่เขียนไว้ใน Blog เมื่อวานว่า “14 วันหลังใช้ iPhone 7 กับ 4 ปัญหาว่าด้วยการตัดหูฟัง 3.5 mm !” และอยากจะบอกว่าตัวแปลงหูฟัง [Adapter] เริ่มออกอาการพังแล้วใน 2 สัปดาห์
ใครที่เคยมีปัญหากับ Charger หรือสาย USB คงเข้าใจ
สายของตัวแปลงหูฟัง 3.5 mm ที่แถมมาใน iPhone 7 มันบอบบางยิ่งกว่านั้น
หลังจากใช้งานจริงด้วยการเอา iPhone 7 ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วดึงเครื่องเข้าออกได้ 10 วัน,
สายที่เห็นก็เริ่มหักตรงปลายด้านหนึ่งที่ติดกับแท่ง Plastic ทรงแบนและเชื่อว่าจะพังถาวรในเวลารวมไม่เกิน 1 เดือน
ไม่ใช่ iPhone 7 ไม่ดี, มันคือมือถือที่ดีที่สุดเท่าที่โลกนี้มีในปี 2016 ทั้งแง่คุณภาพจอ / กล้องถ่ายรูป / Speed [ทั้งใช้งานจริงทั้งผล Benchmark] แต่มันไม่ให้ประสบการณ์ใหม่ใดๆ สำหรับคนที่ใช้ iPhone 6 & iPhone 6S อยู่เลย…
ใครที่อ่าน Blog ประจำคงรู้ว่าผมเข้าข้าง Apple มาตลอด
แต่ iPhone 7 มัน “น่าเบื่อ” จริงๆ
ยิ่งถ้าใครใช้งาน iPhone 6 และ iPhone 6S อยู่, จะยิ่งแทบไม่รู้ความต่าง
ยกเว้นถ้าใครใช้ iPhone 5S หรือรุ่นเก่ากว่านั้น, มันก็อาจ Make Sense ในการ Upgrade เป็น iPhone 7 !
– Update 4 Oct 2016 [วันเกิดผมเอง] –
พอดีมีคนเสนอ Vertu New Signature Touch มาให้ใช้แทน iPhone 7, จึง Review ลง Blog เอาไว้ดังภาพ
และ Update 13 Oct 2016 : พรุ่งนี้จะเป็นวันแรกที่ Apple Store Thailand พร้อม 3 Operators อย่าง AIS / TrueMove / DTAC เปิดให้จอง iPhone 7 & iPhone 7 Plus พร้อมกัน, รับเครื่องจริงวันที่ 21 Oct 2016 !
ใครอยากได้ iPhone 7 สีดำ, แนะนำให้จองทันทีเพราะถ้าหมดล็อตแรกปีนี้จะต้องรอต้นปีหน้าครับ