Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
และคำถามที่สองคือ “มันเป็นเช่นนั้นจริงรึเปล่า ?”
“I would NEVER buy an Android phone again if I cared about photography
If you truly care about great photography, you own an iPhone
If you don’t mind being a few years behind, buy an Android”
ดูเหมือนสิ่งที่ Vic Gundotra, ในฐานะอดีต Senior Vice President ฝั่ง Engineer จะกล่าวเช่นนั้นจริงและเขายังย้ำลง Facebook อีกว่า “ตั้งแต่ได้ iPHone 7 มาก็เลิกใช้กล้องใหญ่ไปแล้ว [iPhone 7 has a good enough camera to replace his DSLR]”
ซึ่งผมก็เห็นด้วยมานานแล้ว
ด้วยเหตุผลเดียวกับ Vic Gundotra เกือบทุกอย่าง, ในฐานะที่ผมเองก็ใช้มือถือมาเกือบทุก Brand และล่าสุดก็เพิ่งขาย Galaxy S8 & Xperia Z5 Premium DoCoMo ทิ้งไปเพราะกล้องกับ Gallery ของฝั่ง Android มัน “เรื่องมาก !”
ผมมีถ่ายภาพเทียบกันระหว่าง iPhone 7 VS Galaxy S8 ลง Review เอาไว้หลาย Blogs
จะเห็นว่ากล้อง Galaxy S8 สีเพี้ยนอมแดง
[ไม่ดีอย่างยิ่งเวลาใช้ถ่ายภาพของกิน, ซึ่ง 98% ของชีวิตผมก็คืออาหาร…]
ส่วนกล้องฝั่ง Sony Xperia นั้น, ปัญหาใหญ่อยู่ที่ระบบ Auto มันทำงานได้แย่และมีปัญหากล้องร้อนปิดตัวเองบ่อยๆ
กับอีกข้อที่อาจไม่ใช้เรื่องกล้องโดยตรง, แต่คลังภาพ [Photos & Gallery] ของ Android ที่มีหลายอันมันก็ซับซ้อนสุดๆ
Google Execs : เหตุผลที่กล้อง Android ยังห่างชั้นจาก iPhone 7 หลายปี
เหตุผลก็เดิมๆ คือ “The open source nature of Google’s system makes it difficult to innovate both on a hardware and software level simultaneously”, หรือก็เพราะธรรมชาติของ Android มันเป็น “ระบบเปิด”
ทำให้การพัฒนา Hardware [by Samsung / Sony / Etc] ร่วมกับ Software [by Google] คู่กันทำได้ยาก
แต่ iPhone ไม่มีปัญหานี้เลย [Apple doesn’t have all these constraints]
ขอแค่ทำ Hardware ให้ดีสักที, ที่เหลือก็แค่พัฒนา Software พร้อม Features ใหม่ๆ ตามมา
ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับ Vic Gundotra ทุกประการ, ยิ่งรวมกับจอภาพหลากสีหลายมาตรฐานของฝั่ง Android
บางทีเราไม่รู้เลยว่าภาพที่เห็นในเครื่องเมื่อเราเอาขึ้น Facebook มันจะยังเป็นโทนสีเดียวกันรึเปล่า ?
เป็นมิตรกับมนุษย์
คือสิ่งที่กล้องของ iPhone เท่านั้นที่ทำได้
ทุกครั้งที่ยกขึ้นมาถ่าย, รู้สึก “วางใจ” ว่าได้ภาพที่สวยโดยไม่ต้องเสียเวลาเข้า Settings แล้วไป Set ค่าเองแบบ Manual [ซึ่งบางครั้งเหตุการณ์เฉพาะหน้ามันก็ไม่รอให้เรามานั่งตั้งค่ากล้อง] และ Concept ของกล้องมือถือที่ดีก็ควรจะเน้นที่ความสะดวก
เหมือนรถเกียร์กระปุก, ที่ทุกวันนี้แทบไม่มีใครใช้โดยไม่ต้องถามเลยด้วยซ้ำว่ามันดีหรือด้อยกว่าเกียร์ Auto จริงไหม ?
ปัญหาคือมันไม่สะดวกกับชีวิตจริง, สิ่งที่มนุษย์ต้องการจาก Technology คือ “ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น”
ซึ่ง Google ยัง “ตามหลัง” ฝั่ง Apple อยู่หลายปี, ถ้าใครไม่ Serious เรื่องนี้ก็พอจะซื้อ Android ได้
“If you don’t mind being a few years behind, buy an Android”