Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 3 ใบ ! > "Click"
--------------------------
อรุณสวัสดิ์จาก New York, เช้านี้ มีข่าว The Wall Street Journal เรื่อง “Apple bites Samsung” มาฝาก
ใน Q3 ของปีนี้, Samsung กำลังประสบปัญหากำไรลดลงอย่างหนักถึง 62%
ที่น่าสนใจก็เพราะข่าวจาก WSJ เช้านี้มันตรงกับการวิเคราะห์ของ Bloomberg ที่ลงใน Blog เมื่อเดือนก่อน
ว่า “ทำไม Samsung ต้องหวาดกลัวกับการเปิดตัว iPhone 6 Plus !“
“Samsung’s smartphone business is facing intense competitive pressure at the low end from Chinese handset makers and at the high end from the iPhone. With the iPhone 6,
Apple wiped out Samsung’s distinguishing feature, a big screen. And with the iPhone 6 Plus, Apple has now entered into the Phablet segment that Samsung pioneered”
ไม่น่าเชื่อนะครับว่าที่ Bloomberg วิเคราะห์ไว้ในวันเปิดตัว iPhone 6 จะตรงหมด
Samsung กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก
เพราะเดิมที, ตลาดจอใหญ่ 5.x นิ้วถูกผูกขาดโดย Samsung
และที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ ตลาดล่าง / ตลาดกลางของ Samsung ก็กำลังถูกแบ่ง Cake โดยมือถือจีน
ตลาดบนเสีย Margin, ตลาดล่างเสีย Market Share
คาดว่าการสูญเสียพื้นที่และกำไรครั้งนี้จะยังคงดำเนินต่อไป
ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจ ในฐานะที่เคยใช้ iPhone 6 Plus มาแล้ว และตอนนี้ก็ใช้ iPhone 6 4.7 อยู่
แต่ก่อนเราอาจไม่มีตัวเลือกเวลาจะซื้อ “มือถือจอใหญ่”
แต่ ณ วันนี้เรามีผู้เล่นรายใหม่ ซึ่งเป็น Brand ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ลงมาแย่งตำแหน่ง No.1 ของตลาดไป
ทว่า สิ่งที่ผมสนใจมากกว่าการพ่ายแพ้ของ Galaxy Note 4 / Galaxy Note Edge ต่อ iPhone 6 Plus ก็คือ แล้ว Samsung จะทำอย่างไรต่อไปกับ Flagships สองตัวที่ไม่มีอนาคต ?
จะรีบลอยแพแล้วออกรุ่นใหม่มาแก้ทาง ?
หรือจะนั่งมอง iPhone 6 / iPhone 6 Plus ทำยอดขายทิ้งห่างไปเรื่อยๆ
ซึ่งตอนนี้ เวลาผ่านไปแค่เพียงหนึ่งเดือนและ Apple ก็เพิ่งจะขาย iPhone 6 ในไม่กี่ประเทศ แต่ยอดรวมก็ทะลุ 21 ล้านเครื่องแล้ว และแน่นอนว่าใครที่ซื้อ iPhone 6 Plus ไป, ก็คือคนที่จะไม่ซื้อ Galaxy Note 4 นั่นเอง
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้นึกถึงสมัยที่เกาหลีเข้ามาแย่งพื้นที่ญี่ปุ่น, ตอนนี้จีนกำลังทำแบบนั้นเช่นกัน