Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 3 ใบ ! > "Click"
--------------------------
Sugoi SIM ซื้อที่ไทยก็ลองแล้ว, BMobile ทั้งแบบที่ขายให้นักท่องเที่ยว [Visitor SIM] ทั้งแบบเติมเงิน [Prepaid] สำหรับคน Local ก็ลองแล้วและล่าสุดก็เพิ่ง Review ซิมฯ คุณช้างของ UMobile ไปเมื่อเดือนก่อน
แต่ทั้งหมดนี้ไม่มีอันไหนสู้ “Yodobashi Camera Original WirelessGate SIM Card” ใน Blog นี้ได้เลย !
ทั้งราคาทั้งคุณภาพสัญญาณ 3G / 4G LTE [เพราะวิ่งบนเครือข่าย NTT DoCoMo เช่นกัน :)]
และ “Yodobashi Camera Original WirelessGate SIM Card” ก็ยังแถม Free WiFi อีก 40000 จุด
ผมซื้อแบบ 2GB ที่ราคา 3580 Yen มา, ที่มันถูกกว่า SIM Card ของเจ้าอื่นก็เพราะว่า…
“Yodobashi Camera ทำเอง” ครับ
คนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆ โดยเฉพาะใครที่ชอบ Gadget & SmartPhone, ต้องเคยแวะร้านขายอุปกรณ์ IT ที่ใหญ่สุดสองรายในประเทศนี้ ซึ่งก็คือ “Bic Camera” กับ “Yodabashi Camera” แน่ๆ
ก่อนหน้า, Yodobashi Camera ก็รับ SIM Card เติมเงินสำหรับนักท่องเที่ยวมาขาย
อย่างพวก SoNet [by Sony] / BMobile / UMobile และ Iijmio
แต่ไปๆ มาๆ, Yodabashi Camera คงเริ่มรู้สึกว่ามันมีลูกค้าต้องการ SIM แบบนี้ไม่น้อย…
ก็เลยออก “Yodobashi Camera Original WirelessGate SIM Card” มาเมื่อเดือนก่อนนี่เอง
มีให้เลือกทั้งแบบ 1GB / 2GB และ 3GB
ราคาก็ถูกกว่า SIM Card ของคู่แข่ง, 1GB เพียง 2980 Yen และ 3GB ก็ 3980 Yen
เมื่อเทียบกับ SoNet by Sony ที่ราคา 3000 Yen [1GB] / 4000 Yen [2.2GB] / 5000 Yen [3GB]
หรือ BMobile 1GB ที่ราคา 3980 Yen
[ทั้งหมดนี้เป็น SIM Card แบบที่ผมชอบคือ “มีปริมาณ Data มาให้, เราจะใช้วันละเท่าไรก็จัดการเอาเอง แต่ถ้าเป็นแบบ Sugoi SIM ที่ซื้อในไทยจะให้เป็นรายวัน 100 MB เท่านั้น]
รอบนี้ผมมีเวลาใน Tokyo ค่อนข้างเยอะ, ก็เลยค่อยๆ ไล่ดูราคา SIM Card เติมเงินทั้งหมด
Confirm ว่าแบบที่อนุญาตให้เราใช้งาน Internet ได้แบบอิสระต่อวัน, ไม่มีอันไหนถูกกว่า…
“Yodobashi Camera Original WirelessGate SIM Card”
ปัญหาของ “Yodobashi Camera Original WirelessGate SIM Card” คือต้องตั้งค่าครับ, สำหรับ Android ก็แค่พิมพ์ APN [Access Point Name] ใหม่ลงไปในคำสั่ง Settings แล้วก็ใช้ได้ทันที
แต iOS / iPhone มันมีระบบ Security ที่เหนือกว่า Android, เราจึงเข้าไปแก่ค่าตรงนี้ไม่ได้
ต้องใช้วิธีไป Download ตัว “APN Profile” ใหม่ของ WirelessGate มาทับอันเก่า
[ซึ่งก็คือของ True / DTAC / AIS จากเมืองไทยเรานี่เอง]
ด้วยการใช้ Internet ของอะไรก็ได้เข้าไปที่ www.WG-SIM.jp/Pre04
[มันอาจลำบากก็ตรงที่ต้องหา Internet ฟรี, ซึ่งปรกติผมก็ใช้ Starbucks Japan Free WiFi :)]
แล้วทุกอย่างก็จะ Auto Download ลงมาในเครื่องดังภาพด้านบน
จากนั้นก็ลองเข้า CookieCoffee.com, ระบบจะโอนเราไปยังหน้าลงทะเบียน SIM Card [ตามกฏหมายใหม่ของญี่ปุ่นที่ทุกคนต้องตามตัวได้ เผื่อในกรณีมีการใช้ Internet / Social Network เพื่อละเมิดผู้อื่น]
ซึ่งก็ได้แก่ชื่อนามสกุลและ Email ที่ใช้งานได้จริง
แล้วระบบ “Yodobashi Camera Original WirelessGate SIM Card” ก็จะส่งรหัสทั้งหมดมาให้ทาง Mail
สำหรับใช้ Login เล่น Free WiFi ตามที่สาธารณะกว่า 40000 จุดทั่วประเทศ
พร้อมข้อมูล Package ที่เราเลือกซื้อ / สมัครใช้
ส่วนใหญ่ที่สงสัยว่าแล้วเวลาเราซื้อ SIM Card ในญี่ปุ่น, มันสามารถ Tethering หรือใช้เป็น HotSpot ได้ไหม ?
คำตอบก็ตามภาพข้างล่าง
[ทว่า การ Tethering / WiFi Hotspot ได้หรือไม่นั้น, มันขึ้นกับมือถือหรือ iPhone ของเราด้วยแต่เครื่องหลักที่ผมใช้คือ iPhone 6 TMobile ที่หิ้วมาจาก New York ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ไม่ว่าจะใช้ SIM ที่ไหนและประเทศใด]
หวังว่า Blog นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน, โดยเฉพาะใครที่อยาก Backpack เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองครับ :)