Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 3 ใบ ! > "Click"
--------------------------
เดือนละ 129 บาทฟังเพลงได้ไม่อั้น, ยิ่งถ้าใครชอบเพลงฝรั่งโดยเฉพาะ Jazz !
Apple Music มีให้เยอะมาก…
ส่วนเพลงไทยสาย Grammy & RS ได้ยินว่ายังเทียบกับหลายๆ Apps ที่เอามาพัฒนาต่อในเมืองไทยไม่ได้, ซึ่งตอนนี้คู่แข่งของ Apple Music ก็มีเยอะมากอาทิ Joox Music / Spotify / Deezer แต่สุดท้ายผมก็เลือก Apple Music อยู่ดี
เพราะสมัครใช้ฟรีตั้งแต่ตอนที่ถือ iPhone 7 เป็นเครื่องหลัก, แม้ตอนนี้จะย้ายมาบน Android OS ได้หนึ่งเดือนเต็ม
แต่ก็ยังคง Login ด้วย Apple ID ได้เหมือนเดิม, เพิ่มเติมคือลำโพงคู่ของ Vertu New Signature Touch มันสุดยอด !
สมัครใช้และฟังเพลงได้ฟรี 3 เดือน !
หน้าตาของ Apple Music App for Android ก็แทบไม่มีอะไรแตกต่างจากบน iOS, หากใครเคยใช้งานมาก่อนบน iPhone ก็ Login ด้วย Apple ID ได้ทันทีแต่ถ้าใครเพิ่งเคยลองเล่นครั้งแรกก็ต้องสมัครใหม่ [Join Apple Music]
จากนั้นก็ใส่เลขบัตร Credit Card ลงไปเพื่อลองใช้งานฟรี 90 วัน
ที่ผมชอบมากอย่างหนึ่งก็คือ Apple Music จะให้เราเลือกแนวเพลงที่ชอบต่อด้วยชื่อ Artists คนโปรด
เพื่อช่วยแนะนำเพลงใหม่ๆ ที่เราน่าจะถูกใจ [จริงๆ คือแอบเก็บข้อมูลเราเอาไปขายชัดๆ]
ชอบแนวเพลง [Genre] หรือ Artist คนใดก็แตะที่วงกลมนั้นๆ หนึ่งที, ถ้า Love สุดๆ ก็ Touch สองครั้งให้เป็นวงใหญ่
เสร็จสรรพก็ฟังเพลงฟรี [3 เดือน] บน Apple Music ได้แล้ว !
Apple [Offline] Music !
นอกจากนี้ Apple Inc ยังใจดีให้เรา Download เพลงมาเก็บได้
ตราบใดที่เรายังเป็นสมาชิก Apple Music และจ่ายค่าบริการเดือนละ 129 บาท…
เรื่องคุณภาพเสียง, Apple Music จะปรับความละเอียดขึ้นลงตามความเร็ว Internet
ถ้า Speed ไว, เพลงที่ฟังก็จะเป็น 256 Kbps ในสกุล AAC [ข้อมูลต้นปี 2016]
หรือจะ Set ให้ความละเอียดเป็นแบบตามใจอันนี้ก็ไม่ว่ากัน
แต่จากการลองใช้งานได้สักพักใหญ่, รู้สึกว่า Apple Music บน Android OS รวมๆ แล้วไม่ค่อย Stable เท่ากับบน iPhone และหลายๆ ครั้งก็เจอปัญหารูปปก Album ค่อนข้างหยาบเวลาที่เราเปิดแสดงผลเต็มจอหรือ Locked เครื่อง
ให้เดาก็น่าจะเพราะ Android มีหลาย Standards หน้าจอหรือไม่ก็ Tim Cook จงใจทำให้ไม่ดีเท่าบน iOS ?
แต่สรุปว่า Apple Music for Android ก็ยังใช้งานได้ในระดับ OK
ที่แปลกใจนิดๆ คือเราสามารถเปิดเพลงพร้อมๆ กันจากหลาย Devices ได้ด้วย, ผมเปิดจาก Vertu New Signature Touch หนึ่งตัวและจาก DoCoMo Sharp Zeta 8 SH01H อีกหนึ่งเครื่องโดยใช้ Apple ID ชุดเดียวกัน !
อ้างอิงจาก Websites เมืองนอก, เขาบอกว่า Login ได้ทีละ 10 Devices !
และใน Apple Music App ก็ยังมีคำสั่ง “Radio” สำหรับคนที่อยากฟังเพลงไปเรื่อยๆ
โดยเราสามารถเลือกตามแนวดนตรีที่ชอบได้หรือจะไป Follow ศิลปินโปรดเพื่อ Update ข่าวก็ดี
แต่คาดว่าเร็วๆ นี้ผมคงต้องจ่ายค่า Internet Package รายเดือนเพิ่ม…