Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
จาก Blog เก่าเมื่อ Week ก่อนว่าด้วย “สถิติใหม่ : Citibank ตัดสายทิ้งใน 54 วิฯ หลังได้ยินคำว่า Freelance”
แต่แล้ว SCB ก็ทำลายสถิติของ CitiBank ลงอย่างง่ายดายด้วยการวางสายใส่ผมใน 42 วินาทีและครั้งนี้ก็เป็นทาง SCB เองที่ติดต่อมา, เพื่อเสนอ Credit Card ตัวใหม่ในระดับรายได้ 100000 บาทที่ชื่อ “Beyond Master Card World”
[จริงๆ มันก็คือ Beyond Platinum เดิม, เพิ่มเติมคือเปลี่ยนชื่อและ Upgrade ระดับเป็น Master Card World]
ก็ไม่ได้ Serious อะไร, เพราะว่า “ชินแล้ว” และพนักงานของ SCB ก็สุภาพดี
แต่แม้จะ Share ลง Blog นี้เพื่อความเฮฮา, ผมก็เริ่มคิดจริงๆ ว่าอยากจะทำ Blog & Facebook ใหม่สักอัน…
ชวนเหล่า Freelance มารวมกันเพื่อเลื่อนวรรณะ !
วันก่อนผมก็ไป Comment แซวไว้ใน CitiBank Thailand Facebook ว่ารู้สึกเหมือนถูก Discrimination ชอบกล, นึกถึงชาติก่อนตอนเกิดเป็นคนอินเดียแล้วโดนชาวอังกฤษห้ามขึ้นรถไฟชั้นหนึ่งร่วมกับคนผิวขาวแม้เราจะมีเงินซื้อตั๋วก็ตาม
ถ้าเอาแบบไม่ขำ, จริงๆ ผมเริ่มๆ อยากทำ Blog หรือไม่ก็ Fanpage ที่ให้ข้อมูลต่างๆ กับชาว Freelance
โดยเฉพาะเรื่องภาษี [ที่ผมโดนคุณสรรพากรเรียกตัวไปสอบ 2 ปีติดกัน] และเรื่องธุรกรรมธนาคาร, โดยเฉพาะ Credit Card
เพราะผมเองก็เพิ่งจะมีบัตร Credit Card แบบ “ไม่ใช้เงินฝากค้ำ” ใบแรกในชีวิตเมื่อไม่กี่วันมานี้ !
[Update : หลังจากที่บ่นลง Blog นี้ก็มีทั้ง UOB / AMEX / JCB / TMB ติดต่อมามอบบัตรให้, ขอบคุณมากครับ]
ทั้งที่ Credit Card คือ “อาวุธสำคัญ” สำหรับ Freelance เลยด้วยซ้ำ
และกระทู้แนะนำ Pantip ห้องสินธรเมื่อวันก่อน
มีคนส่งมาให้อ่านแล้วทนเก็บกดในใจไม่ได้, ถึงขั้นต้อง Login เข้าไปตอบ
เพราะคุณเจ้าของกระทู้มีชีวิตที่คล้ายผมมาก, ทั้งงานที่เกี่ยวกับ Computer & IT และการต้อง “บิน” บ่อยๆ
แต่เพราะไม่มี Credit Card จึงไม่สามารถเช่ารถขับที่ Europe ได้ !
ทำให้รู้ชัดอย่างหนึ่งว่าเมืองไทยเรามี Freelances ที่ Income ต่อเดือนเกินแสนไม่น้อย, คงจะดีถ้ามีใครทำ Blog หรือ Facebook Fanpage เพื่อรวมคนเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อ Share ประสบการณ์และแนะนำ Solution ต่างๆ ที่แต่ละคนเจอมา
อย่างของผม, การมี Credit Card สำคัญมากเพราะมันสามารถ “สำรองจ่าย” ที่เมืองนอกได้
และยังใช้จองตั๋วเครื่องบิน / Hostel ระหว่างเดินทาง, โดยไม่ต้องเสี่ยงพกเงินสดมากๆ เวลาไปประเทศอันตรายๆ
เพราะการสมัครบัตร Credit Card ที่ใช้เงินฝากค้ำมันไม่ดี
นี่เล่าจากประสบการณ์ที่มีบัตร Credit Card ด้วยวิธีนี้มาแล้ว 2 ใบจาก 2 ธนาคาร
1. แน่นอนว่าเราต้องเอาเงินไป “จม” ไว้เล่นๆ อย่างน้อยก็สี่ห้าหมื่น [หรืออาจถึงแสน & ล้านสำหรับบางบัตร]
2. แลกกับ “วงเงินที่แสนต้ำเตี้ยเรี่ยดิน” เพราะส่วนมาก Bank จะให้วงเงินแค่ราว 80% ของเงินที่ค้ำ, ซึ่งไม่พอ
3. อย่าง KBank Platinum ใบเก่าของผมก็สามารถสมัครได้ง่ายๆ ด้วยการใช้เงินสดฝากค้ำแค่ 50000 บาทแต่เอาเข้าจริง, วงเงินสี่หมื่นมันแทบจะทำอะไรไม่ได้เวลาต้องแบกเป้ไปทำงาน [และแอบ Backpack ต่อ] ในฝั่ง Europe หรือ USA
4. สุดท้ายก็ต้องค้ำเป็นแสนอยู่ดี, คือมันก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ เพื่อให้ได้มาซึ่ง Credit CArd อนาถๆ หนึ่งใบ
5. และหลายคนไม่ทราบ, Credit Card ที่ได้มาด้วยการฝากค้ำของบางธนาคารได้รับสิทธิน้อยกว่าบัตรที่อนุมัติแบบปรกติ
ผมเคยแซวพนักงานธนาคาร [แบบขำๆ] ว่า “จริงๆ พวก Freelance นี่มีความมั่นคงทางการเงินสูงกว่าอีกนะครับ” เพราะเรารับเงินหลายทางจากหลายเจ้า, โอกาสที่จะ “ตกงานอย่างสิ้นเชิง” มีน้อยมากเมื่อเทียบกับพนักงานบริษัทไม่ใช่หรือ ?
ในประเทศที่ Bank บอกว่าจะ “Go Digital” แต่ไม่เชื่อว่า Freelance สาย IT มีรายได้ดีจริง, Amazing Thailand !