Special : "How to สร้างตัวตนออนไลน์ให้ชีวิตและธุรกิจด้วย Social Media !"
Post นี้ยกมาจาก Facebook Page อีกเช่นเคย, กับข่าวใหญ่ในวงการธุรกิจเมื่อ “Vanilla Cafe” แห่งเครือ S&P ที่มีสาขาหลักอยู่บนห้าง S Paragon ประกาศปิดตัวเต็มรูปแบบ
Vanilla Brasserie เป็นหนึ่งในร้านที่ผมไปทานตั้งแต่เปิดใหม่ๆ
การที่ร้านเครือใหญ่ในห้างใจกลางเมืองเลือก “ปิดกิจการ”, ส่งผลอย่างมาก
แม้ Vanilla อาจจะไม่ใช่ร้านที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างแต่สำหรับคนทำธุรกิจ, เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ลูกค้า [กลุ่ม SMEs] ทักผมมาหลายคน
ว่า “ขนาด S&P ยังไม่ไหว”
หรือถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่พวกเขาควรจะ “Stop [the] Bleeding”
อะไรที่ตัดได้ก็ตัด
ภาษาหุ้นคือ “Cut ตัวแดงทิ้งไป”
หยุดการไหลของเลือดทันที
แล้วกวาดเงินสดที่เหลือทั้งหมดเก็บใส่กระปุก, รอวันที่ทุกอย่างคลี่คลายค่อยกลับมาเริ่มใหม่
ดีกว่า “ฝืน” ต่อไป
แล้วไม่เหลือกระทั่งเงินไว้แก้มือ
ซึ่งผมเห็นด้วยแล้วว่า
“จริง”
[และวันถัดมา, CBTL ก็ประกาศปิดทุกสาขาในไทยตามไปติดๆ]
นี่คือสิ่งเดียวที่เจ้าของธุรกิจกำลังคิด
หรือถ้ายังไม่คิด, ก็เริ่มคิดได้แล้ว
ผมเองก็เริ่มตัดบาง Parts ของงานที่ต้นทุนสูงรายได้ต่ำทิ้งไป
ย้ายเงินจากตรงนั้น, มาลงในที่ที่ยังสร้างรายได้ได้
หรือไม่ก็ถือไว้เฉยๆ เพื่อความมั่นใจ
ส่วนลูกจ้างและพนักงาน, อยากเตือนให้ระวังมากขึ้นอีก
มองหาทางไป, หากบริษัทที่ทำอยู่มันไม่ไหวจริงๆ
ผมอยาก Share ไว้, ในฐานะที่ปรึกษาธุรกิจให้กับ SMEs สารพัดสาย
ชั่วโมงนี้ไม่มี “สัญญาณดี” ให้เห็นเลยสักวงการ
ทั้งจากธนาคาร / ท่องเที่ยว / อสังหาฯ / ยานยนต์ / IT / เกษตรกรรม
ไปจนถึง Digital & Online
การ “ยื้อ” ของภาคธุรกิจใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดเต็มทน
ผลที่ตามมาก็คือการเลิกจ้างอีกระลอกใหญ่
ในวันที่ไม่มีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐฯ
อะไรตัดได้ให้รีบตัด
นี่อาจเป็นโอกาส “Cut” ครั้งสุดท้าย
ก็เป็นได้…