Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผมเห็นชื่อแล้วไม่อยากจะเหยียบเข้าใกล้…
พอดีเมื่อปีก่อน, ผม Backpack ไปญี่ปุ่นแล้วเกิดอยากจะเห็น “สลัมแห่งสุดท้ายในกรุง Tokyo” และตัดสินใจพักในสลัมสองสามวันตามประสาคุณ Cookie the iT Backpacker ผู้ชอบนอนลังส้มจนเกือบไม่ได้กลับเมืองไทย…
ใจกลางสลัมชื่อ Sanya [山谷], มี Shopping Street ที่ถูกทิ้งร้างชื่อ “Iroha Shotengai [いろは会商店街]”
ซึ่งทั้งหมดถูก “ลบชื่อทิ้งไป” จากแผนที่กรุง Tokyo
พอเห็นชื่อ Iroha Ramen ในไทย, คิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่เจอในสลัมวันนั้นขึ้นมาชอบกล
แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจมาลองทาน
เพราะ Eatigo มันมี Promotion ลดครึ่งราคา 50% !
[ชีวิต Cookie The เด็กสลัม, ผู้แพ้คำว่าลดราคา… ( ̄ー ̄;]
แต่ทันทีที่เห็นป้ายหน้าร้าน “Iroha Ramen & Izakaya”, ผมนี่อยากหนีกลับบ้านใจแทบขาดเพราะ Logo ร้านก็ดันเป็นตัวอักษรญี่ปุ่นแบบ Hiragana ในกรอบสี่เหลี่ยมสี่ช่องเหมือนของ Iroha Shotengai ในสลัม Sanya พอดีอีก !
แต่บรรยากาศของ Iroha Ramen นั้นถือว่าเฉียบขาด, อยู่บนชั้นสี่ของ 953 Art Community Mall ทองหล่อซอย 9
ด้วยความที่เป็นห้องกระจกใส, จึงมองออกไปเห็นสวนสีเขียวซึ่งไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ในทองหล่อ !
และ Iroha Ramen ยังเข้าใจทำระเบียงด้านนอกเป็นที่นั่งแบบ Outdoor, รอให้ถึงวันที่ลมหนาวพัดมา
ร้านด้านในสวยจริง, ภาพที่เห็นใน Blog นี้ถ่าย Review ด้วยกล้องสองรุ่นคือ iPhone 6S VS iPhone 7
แต่ข้อเสียใหญ่อย่างหนึ่งของ Iroha Ramen & Izakaya และตัวตึก 953 Art Community Mall ก็คือมันมีที่จอดรถน้อยมาก, หากเต็มก็ต้อง Valet Parking เท่านั้นและปัญหาอีกอย่างคือที่ตั้งของร้านมันทั้งเงียบทั้งลึก !
ในตึก 953 Art Community Mall ก็ยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นอีกสองร้านคือ Daiki & Nippon Kai Market
ซึ่งอาจมีโอกาสได้กลับมาลอง Review วันหลังอีกที
สำหรับ Menu ของร้าน Iroha Ramen & Izakaya ก็ตามชื่อ, คือมีทั้ง Ramen และกับแกล้มเหล้า (  ̄ー ̄)σ
โดย Ramen ที่มีสามซุปหลักได้แก่น้ำดำ [Toyama Black] / น้ำใสกุ้ง [White Shrimp] และเต้าเจี้ยวเผ็ด [Spicy Miso]
ราคาก็ตามมาตรฐานร้าน Ramen ทองหล่อ, เริ่มต้นชามเล็กที่สองร้อยนิดๆ ไปจนถึงชามใหญ่สามร้อยกลางๆ
สั่งมาสามชามสามอย่างเลย (メ`ロ´)/!
อย่างแรกที่ค่อนข้างแปลกคือเส้นบะหมี่ที่เป็นแบบเล็กและหยัก, ไม่ค่อยเห็นในเมืองไทยเท่าไร
แต่มันก็ทำให้เคี้ยวแล้วกรุบๆ หนึบๆ ซึ่งหลายคนอาจจะชอบ
[ส่วนตัวผมรักเส้นหนาๆ แบบ Tsukemen ของ Tokyo และไม่ชอบเส้นเล็กมากๆ แบบ Hakata / Fukuoka]
แต่ซุปดำ [Toyama Black] นั้นน่าสนใจเพราะแม้จะเข้มข้นด้วยน้ำมันแต่ก็ไม่ทำให้เลี่ยน, ตรงนี้แตกต่างจากบะหมี่กระดูกหมู [Tonkotsu Ramen] หลายๆ ร้านในบ้านเราที่ขุ่นและข้น [เหมาะกับเมืองหนาวแต่บ้านเรามันร้อนตลอดปี]
ตัวซุปของบะหมี่น้ำดำน่าจะทำมาจากปลา, สามารถซดจนหมดชามได้อย่างไม่อืดไม่หนักไม่ตัน
ส่วนซุปกุ้งขาวก็ยิ่งเบาสบาย, ไม่คาวอย่างที่คิดแต่ถ้าใครชอบรสเข้มออกเผ็ดก็ต้อง Spicy Miso ที่เน้นสะใจ !
มั่นใจได้ว่ารสชาติไม่เหมือนทานในสลัม ( ̄▽ ̄)ゞ!
ส่วนหมูอบนั้นค่อนข้างเน้นเป็นเนื้อๆ และไม่ถึงกับนุ่มจนละลาย,
ใครที่ชอบทานเครื่องบะหมี่แบบที่ยังพอมีอะไรให้เคี้ยวให้สัมผัสก็น่าจะชอบ
นอกจากนี้ที่ Iroha Ramen & Izakaya ก็ยังมี Menu กับแกล้มอื่นๆ ตามมาตรฐานร้านเหล้าญี่ปุ่นอย่างไก่ทอด [Karaage] / Caesar Salad / Takowasabi [ปลาหมึกเผ็ด] / Gyoza / Hamaguri Sakamushi [หอยตลับต้มสาเก]
บอกเลยว่ามนุษย์ผู้เรื่องมากด้านอาหารญี่ปุ่นอย่างคุณ Cookie ยังต้องการันตีว่าอร่อย…
ไก่ทอดผ่านไฟมาอย่างดี, ไม่อมน้ำมันแต่ชุ่มฉ่ำและยังจัดมาในจานให้ทานกับซอสเปรี้ยวๆ [Ponzu]
Seafood Caesar Salad นี่ไม่ต้องพูดถึง, เครื่องเต็มพิกัดในชามขนาดใหญ่ !
แม้ผมจะมาทานด้วย Eatigo App ที่ลดราคา 40 – 50% [มาสองหน] แต่ Iroha Ramen ก็ให้การต้อนรับอย่างดีและไม่น่าจะมีการ “ตุกติก” เรื่องอาหารเช่นการลดปริมาณหรือคุณภาพแต่อย่างใด [หรือถ้าลดแล้วยังได้ขนาดนี้ก็ OK]
อาจเพราะ Iroha Ramen & Izakaya และตึก 953 Art Community Mall เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ?
หรือเพราะตัว Chef ใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นจริงๆ ?
[ตัวร้านสาขาหลักชื่อ Menya Iroha ตั้งอยู่ที่เมือง Toyama, โดยพ่อครัวชื่อ Kurihara Kiyoshi]
อนาคตต่อๆ ไปจะยังคง QC ได้ในระดับนี้รึไม่ ?
ก็ต้องดูกันไป…
แต่ ณ วันนี้, ถือว่าผมสามารถพาสาวญี่ปุ่นมาทานบะหมี่ที่ร้าน Iroha Ramen & izakaya ได้อย่างสบายใจ
จบด้วยใบเสร็จ, Iroha Ramen & Izakaya [ไม่น่า] คิดค่า Service Charge อีก 10% [แต่ก็ลดไป 40 – 50% เพราะ Eatigo] และอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่า Review นี้บางภาพถ่ายด้วยกล้อง iPhone 6S และบางรูปก็ iPhone 7
ใครเห็นความต่างหรือแยกออกบ้างเอ่ย d( ̄▽ ̄o)