Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
Blog นี้ยังคงเขียนที่ Okinawa, ในร้านกาแฟท้องถิ่นชื่อ 35 [Three Five] Coffee
และสิ่งที่คิดอยู่ตอนนี้ก็คือ “ไม่อยากกลับไทย !”
ส่วนตัวผมแบกเป้ Backpack มากว่า 50 ประเทศแล้ว, สำหรับญี่ปุ่นอาจเป็น “กรณีพิเศษ” เพราะเคยมากว่า 30 ครั้ง [ด้วยเรื่องงานเรื่องคนรักและเรื่องครอบครัวที่นี่] แต่การมา Okinawa ครั้งนี้กลับรู้สึกต่างจากครั้งไหนๆ และมันก็เป็นความรู้สึกที่…
“ไม่เคยเกิดมานานแล้ว”
และ Okinawa ก็น่าจะเป็น “จุดหมายใหม่” ของใครอีกหลายๆ คนได้, ด้วยเหตุผลว่า…
4. ตั๋วบินตรงราคาโคตรถูก !
แม้สนามบินที่ Peach Airlines ใช้จะดูเหมือนโกดังไปหน่อย [ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่แค่ “เหมือน” แต่มันก็คือโกดังนั่นแลฯ] แต่ Peach Airlines ก็ถือว่าเป็นการ “เปิด Destination ใหม่” เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมี Airlines ไหนที่ “บินตรง” ลง Okinawa เลย !
และเดิมที, การมา Okinawa มันก็ค่อนข้างลำบาก
อาจต้องต่อเรือหรือ Flight ในประเทศจากตัวแผ่นดินใหญ่
ผมเองอยากมา Okinawa [เพื่อดูซากโบราณสถานใต้น้ำที่ว่ากันว่าอาจเป็น Atlantis !] นานแล้ว
การที่ Peach Airlines เปิด Route นี้จึงเป็นจังหวะดี
ที่มารอบนี้ก็ได้ตั๋วไปกลับรวมทุกอย่างไม่ถึงสี่พันบาทไทย
3. ใช้เวลาเดินจากเมืองไทยแค่สี่ชั่วโมง !
จากกรุงเทพฯ มา Tokyo, ใช้เวลาราวหกชั่วโมง
แต่จากกรุงเทพฯ มา Okinawa, ใช้เวลาไม่ถึงสี่โมงครึ่ง !
[ถ้า Peach Airlines ไม่ Delay และไม่เทผู้โดยสาร…]
ในขณะที่มา Hong Kong & Taiwan ใช้เวลาสามชั่วโมงกว่า, การมา Okinawa จึงยิ่งเข้าท่าเพราะว่ามันคือ “ญี่ปุ่น”
2. ที่พักราคาคืนละพันเยน !
รอบนี้ผมมาพัก Hostel เล็กๆ ติดสถานี Kenchomae ที่ชื่อ “Umikaji Guesthouse” ในราคาคืนละสามร้อยบาทนิดๆ, พอๆ กับกิน Ramen หนึ่งชามเพราะค่าครองชีพและค่าที่ดินใน Okinawa มันถูกกว่าเมืองใหญ่อย่าง Tokyo นั่นเอง
1. เพราะที่นี่ Welcome คนไทยอย่างมาก !
อันนี้บางคนอาจไม่ชอบ [เพราะผมคือคนหนึ่งที่ชอบไป “เมืองไกลๆ” ที่ยังมันไม่มีความเป็น Tourists Attractions เลยมากกว่า] แต่ก็ต้องยอมรับว่าสำหรับ “นักท่องเที่ยวมือใหม่” หรือ Backpacker ที่เพิ่งลองแบกเป้, การมีภาษาไทยมันก็ง่ายกว่า
และก็คงเพราะ Peach Airlines กระหน่ำ Promotion บินตรงแบบถล่มทลาย
จำนวนคนไทยที่มา Okinawa ก็เลยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในเมือง Naha ซึ่งเป็นเมืองหลักของ Okinawa, จึงมีป้ายภาษาไทยที่นั่นที่นี่
หลายๆ ร้านมีภาษาไทยคู่กับภาษาจีนและภาษาเกาหลี
สังเกตว่าไม่มี Russian หรือภาษาตะวันตกอื่นๆ เลยด้วยซ้ำ
Okinawa : เมืองน่าอยู่ผู้คนน่ารัก
หลังๆ ผมไม่ค่อยชอบไปเมืองใหญ่อย่าง Tokyo & Osaka แต่ชอบมากเวลามาเมืองเล็กๆ หรือออกต่างจังหวัด, อย่างเมื่อปีก่อนที่ [พบรักกับ Mayumi] ใน Sendai หรือปีที่แล้วที่ไปประชุมแถว Shizuoka และล่าสุดก็ไปทำงานกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ Iwate
Okinawa ก็เช่นกัน, มีแค่รถไฟฟ้าสายสั้นๆ ชื่อ “Yui Rail” วิ่งในตัวเมือง Naha
รถราไม่เยอะมากมาย, แม้แต่ในเมือง Naha ก็ไม่ต้องแย่งกัน
ยิ่งถ้าเจอคนท้องถิ่น [สังเกตไม่ยาก, คนพื้นถิ่นที่นี่คือ “ชาวริวกิว” ซึ่งมี DNA คนละสายกับญี่ปุ่นแผ่นดินหลัก]
จะสัมผัสได้ถึงความสนุกสนานเฮฮาและความเป็นมิตร, แบบที่หาไม่พบในเมืองใหญ่
ถ้าใครรับได้กับ “สายการบินแห่งโกดังและการนั่งพื้นรอขึ้นเครื่อง“, พบกันที่ Okinawa ครับ