Special : "How to สร้างตัวตนออนไลน์ให้ชีวิตและธุรกิจด้วย Social Media !"
ไม่รู้ว่าผมโชคร้ายหรือจักรยานไทยมันแย่ลงทุกวัน
เมื่อวานเจอจักรยาน Hipster ปั่นบนถนนใหญ่, ถือ Hand มือซ้าย ส่วนมือขวาเล่น iPhone 6
ค่ำๆ เจออีกคัน, ปั่นสวนเลนบนสุขุมวิท ก่อนจะหักขวาเข้าซอยทองหล่อ [ผมที่เลี้ยวซ้ายออกจากปากซอยต้องหักหลบ]
และถ้าผมชนโครมเข้าให้, แน่นอนว่าสังคมไทยก็พร้อมจะรุมด่าว่า “คนขับรถนี่มันเลวจริงๆ”
นี่ผมเพิ่งกลับมาจาก Tokyo ได้สองวัน, ที่นั่นก็เป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งซึ่งมีการใช้งานจักรยานพอสมควรและช่วงที่ผมอยู่ญี่ปุ่น ก็มีการประกาศกฏหมายใหม่ว่าด้วย “พฤติกรรมจักรยานในการอยู่ร่วมกับสังคม” เพราะจักรยานญี่ปุ่นสร้างปัญหามาก !
อาจแปลกใจกันนิดๆ นะครับที่ผมบอกว่า “จักรยานญี่ปุ่นเป็นปัญหามาก”
เพราะสำหรับคนไทย, การไปปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่นคือสวรรค์แล้ว [เมื่อเทียบกับบ้านเรา]
แต่ถ้ามองจากมุมของ “เมืองแห่งจักรยานที่แท้จริง” อย่าง Norway / Sweden และประเทศกลุ่ม Scandinavia, ชาติเหล่านี้ยังมองว่า “เมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่าง Tokyo ยังไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นเมืองจักรยาน” ครับ
คงเดาได้, สาเหตุก็คือจำนวนประชากรที่มากเกินไปและใน Tokyo ก็มีทั้งรถทั้งไฟแดง
[Tokyo คือ “เมืองหลวงแห่งโลก” เพราะมีประชากรสูงสุด ราว 38 ล้านคน, ตามมาด้วย Seoul / Jakarta]
ในปี 2014 ที่ผ่านมา, ญี่ปุ่นมีอุบัติเหตุจักรยานทั้งหมด 106427 ครั้ง
โดย 64% เกิดเพราะ “จักรยานทำผิดกฏหมาย”
ย้ำว่านี่คือ “ญี่ปุ่น”, ซึ่งผมเองก็มาขี่จักรยานที่ประเทศนี้หลายทีและ 99% ก็ยังเจอแต่จักรยานที่ดีกว่าบ้านเรา
ทว่า ก็ยังมีอุบัติเหตุและคนตายบนจักรยานปีละกว่าแสนครั้ง
โดย 64% คือ “จักรยานทำผิดกฏหมาย”
และเมื่อย้อนกลับมาคิดถึงเรื่อง “จักรยาน Hipster ผู้ยิ่งใหญ่” ในไทย, ที่สามารถขี่ไปเล่น iPhone 6 ไป แบบสวนเลนซ้ายสุดบนถนนสุขุมวิทก่อนจะหักขวาเข้าซอยทองหล่อได้อย่างไม่ต้องกลัวเกรงกฏหมายหรือหลบรถคันไหน…
ก็ไม่น่าแปลกใจ, ถ้าจะมีคนตายเพราะการขี่จักรยานมากขึ้นเรื่อยๆ
และคนขี่จักรยานก็มีแนวโน้มจะโดนเกลียดชังจากคนใช้รถใช้ถนน, ซึ่งก็เข้าใจได้
เพราะสุดท้าย, ผมที่ขับรถมาอย่างถูกกฏหมายก็ต้องหลบให้จักรยาน Hipster ไทยเช่นกัน…
[ไม่อย่างนั้นวันรุ่งขึ้นผมก็จะโดน “มนุษย์กล้อง” กับ “มนุษย์จักรยาน” ถ่ายรูปประจานขึ้น Facebook หรือ Pantip]
จากใจจริง, ทุกวันนี้สิ่งที่ผมกลัวที่สุดเวลาขับรถบนสุขุมวิทก็คือ “จักรยาน”
ถึงขั้นที่มีคนแนะนำว่า “ไปหากล้องมาติดหน้ารถเถอะ เผื่อจักรยานมาชน, คนจะได้รู้ว่าเราไม่ผิด”
ทั้งที่เมื่อก่อน, ผมเคยคิดจะขี่จักรยานไปกินกาแฟแถวทองหล่อซึ่งห่างจากบ้านไม่ถึง 10 Km
และผมก็น่าจะเป็น Blogger คนแรกของไทยที่เรียกร้องให้มี “เลนจักรยาน” ด้วยซ้ำไป
ย้อนกลับมาที่ญี่ปุ่น, กฏหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวาน มีบทลงโทษนักปั่นจักรยานที่ทำผิดด้วยการ “บังคับให้รียนกฏหมาย 3 ชั่วโมง พร้อมจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นเงิน 5700 เยน” และ “ปรับเพิ่มอีก 50000 Yen หากหลบหนี”
ส่วนเมืองไทยตอนนี้, จักรยานมีสิทธิพิเศษสูงสุดบนท้องถนน เหนือกฏหมายทุกอย่าง
ปั่นสวนเลนได้ / จอดตรงไหนก็ได้ / เมาแล้วขี่ก็ได้ / ฝ่าไฟแดงได้ / ถือ Hand มือเดียว [หรือไม่ถือเลยก็ได้] / คุยโทรศัพท์ไปปั่นไปและถ้าสามารถ, ก็เล่น Facebook ไปปั่นไปได้ / ปั่นเป็นกองทัพปิดถนนสามเลนก็ยังได้…
ถ้าเกิดอุบัติเหตุใดๆ ขึ้นมา, แน่นอนว่าประเทศนี้ “รถยนต์ผิดเสมอ” อยู่แล้ว