Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
Blog เก่าเรื่อง “7 Eleven เต็มเมือง : แล้วโชว์ห่วยที่ญี่ปุ่นเขาอยู่กันอย่างไร ?“ ถูก Shared ออกไปกว่าหมื่นครั้งและเพิ่งจะ Update ซ้ำอีกทีเมื่อเช้านี้ [เพราะมีคนข้างในติดต่อมาให้ข้อมูลนั่นโน่นนี่หลายอย่างและผมก็ขี้เกียจโดนฟ้องร้อง…]
แต่เมื่อเช้า, ผมก็ไปอ่านเจออีกข่าวที่ทาง CP / 7 Eleven Thailand แถลงร่วมกับ GrabBike / GrabTaxi
เพื่อเพิ่มบริการ “Delivery”, จัดส่งสินค้าจาก 7 Eleven ถึงบ้าน
Comment ส่วนใหญ่บน Facebook คือหัวเราะว่าทำไมคนไทยมันขี้เกียจขนาดนี้และนี่เป็น Service ที่ไร้สาระ !
แต่ผมกลับรู้สึกว่านี่คืออันตรายอันใหญ่หลวงอีกครั้งของโชว์ห่วย, เช่นเดียวกับภาพ 7 Eleven สาขาแรกที่ญี่ปุ่น
เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแต่ไทยจะหนักยิ่งกว่าญี่ปุ่น
คำว่า “หนักกว่าญี่ปุ่น” ของผมหมายถึงอากาศบ้านเราที่ร้อน / ทางเท้าที่เดินไม่ได้เพราะมีเขาสร้างไว้ให้พ่อค้าแม่ค้าตั้งขายของ / ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินที่ต่ำและทั้งหมดนี้ก็ทำให้บริการ Delivery ถึงหน้าบ้านของ 7 Eleven ไทยยิ่งน่าสนใจ
ภาพข้างบนคือรถมอเตอร์ไซค์พลังไฟฟ้าที่ 7 Eleven Japan พัฒนาขึ้นมาเพื่อเน้น “ส่งของถึงบ้าน” สำหรับผู้สูงวัย
เพราะญี่ปุ่นในปี 2016 ได้กลายเป็น “ประเทศสังคมผู้สูงอายุที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
[คนเกิดใหม่น้อย / คนแต่งงานช้าแต่สุขอนามัยที่ดีทำให้คนรุ่นเก่าอายุยืนยาว]
ไทยเราเองก็กำลังก้าวเข้าสู่ “Aging Society” ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ Asia, รองจากญี่ปุ่นเช่นกัน
ยิ่งถ้าวันหนึ่ง 7 Eleven สามารถทำ App หรือ Catalogue ให้สั่งของ Online ง่ายขึ้นได้กว่านี้อีกละก็…
รูปแบบการซื้อที่เปลี่ยนไปและการใช้ Stock ของสาขาข้างๆ
Research ที่ญี่ปุ่นระบุว่า “การซื้อของเข้าบ้าน” ของคนเริ่มคล้ายกับฝรั่งมากขึ้น, คือจากแต่ก่อนที่ “ซื้อของกินของใช้ในแต่ละวัน” กลายเป็น “ซื้อทีเดียวมากๆ ช่วงวันหยุดเพื่อกินหนึ่งสัปดาห์” และสาเหตุก็เป็นเพราะ “สังคมผู้สูงอายุ” อีกเช่นกัน
พอพัฒนาไปอีกขั้น, มันก็กลายเป็น “สั่ง Online ส่งถึงบ้านเลยดีกว่า”
7 Eleven Japan เริ่มเข้ามาเสริมตรงนี้, ด้วยบริการ Free Delivery
และด้วยความที่ 7 Eleven มีสาขาติดๆ กันเป็นจำนวนมาก, จึงสามารถบริหาร Stock สินค้าได้ง่าย
เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาในระบบ Online, สาขาไหนใน Area นั้นที่มีของก็เป็นผู้จัดส่งให้
กลายเป็น Network ที่พร้อมส่ง “สินค้าแบบซื้อเหมา” คล้าย Makro แต่ขายในราคาค้าปลีกด้วย…
7 Eleven Thailand & GrabBike Free Delivery Service Review !
[ปัจจุบันฟรีค่าใช้บริการ 50 บาทด้วยการใส่รหัสคำว่า 7Eleven บน Grab Application]
วิธีการใช้งาน Grabbike ให้ซื้อสินค้า 7 Eleven ในวันนี้อาจยังค่อนข้างยากเพราะไม่มี Catalogue ให้, จึงต้องเรียกรถมอเตอร์ไซค์เหมือนการเรียกทั่วๆ ไปบน Grab App แล้วพิมพ์สิ่งที่ต้องการฝากซื้อจาก 7 Eleven สาขาใกล้ๆ
เข่นในภาพ, ผมนั่งอยู่ Starbucks Big C Ekkamai
เมื่อพิมพ์จุดเริ่มต้นว่า “7 Eleven”, Grab App ก็จะหาสาขาที่ใกล้สุดให้เอง
แล้วก็ใส่จุดหมายปลายทาง, ซึ่งก็คือ Starbucks Ekkamai พร้อมกับรายชื่อขนมที่อยากได้
กดเรียก Grabbike, จ่ายเงินสดเมื่อคุณคนขับมาถึง [หากเขาหาเราไม่เจอก็ไม่ต้องจ่าย…]
หรือโชว์ห่วยจะสมควรตาย [และโลกเราก็อยู่ง่ายขึ้น]
ว่ากันตามตรง, ผมไม่ได้รักและก็ไม่ได้เกลียดเครือ CP
ก่อนจะ Drama, ก็อยากให้กลับไปอ่าน Blog เก่าเรื่อง “7 Eleven เต็มเมือง : แล้วโชว์ห่วยที่ญี่ปุ่นเขาอยู่กันอย่างไร ?” ที่ผมยกตัวอย่าง “ลุงขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง” ผู้ไม่สะเทือนใดๆ แถมยังใช้ไฟกับลูกค้าของ 7 Eleven หารายได้เพิ่มขึ้นเสียอีก !
ไม่มีประโยชน์ที่ร้านโชว์ห่วยจะโวยวายเพราะถึงอย่างไรก็ทำอะไร CP & 7 Eleven ไม่ได้…
และความจริงของโลกใบนี้ก็คือ Convenience Store ทำให้ชีวิตคนส่วนใหญ่ง่ายขึ้นๆ ทุกวัน
สำคัญคือโชว์ห่วยจะสู้อย่างไรมากกว่า, ไม่ใช่เข้าไปทีไรก็เจอแต่คนขายด่าหรือสินค้าหมดอายุ
ซึ่งก็ไม่แปลกใจเพราะผมเห็นคนส่วนใหญ่ “ขำ” กับบริการใหม่ของ CP / 7 Eleven และ GrabDelivery
ทั้งที่ผมว่า Service นี้คือการมองเห็นอนาคตที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมาถึงในสักวันและถ้าตอนนี้เราเอาแต่ “ขำ” ก็เท่ากับปล่อยให้ 7 Eleven & CP ขยายระบบไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ทุกอย่างสายเกินไป, แล้วตอนนั้นโชว์ห่วยก็จะออกมาโวยวาย
การปฏิเสธความเปลี่ยนแปลงบนโลกที่กำลังเปลี่ยนไป, ทางเดียวคือ “ตาย” เท่านั้นจริงๆ