Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
Blog นี้เขียนถึง “ตัวผมเอง” เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา, หลังจากที่วันก่อนแวะไปงาน Meeting เพื่อนสมัยมหา’ลัย
ตอนนั้น, รู้สึกเหมือนทุกๆ คนจะเริ่มต้นจากจุดเดียวกัน
แม้กระทั่งวันที่เรียนจบไป, ก็ Start ใหม่จากศูนย์ด้วยการออกหางานตามบริษัทต่างๆ
ทำไมในช่วงเวลาไม่กี่ปี, การกลับมาพบกันครั้งนี้มีบางคนไปไกลแสนไกลแต่บางคนไปไม่ถึงไหน…
ผมเป็นคนเดียวในคณะที่ลาออกตอนปี 4 [ดังที่เคยเขียนไว้ใน Blog เก่าเรื่อง “4 ความจริงที่คนเรียนไม่จบมหา’ลัย ไม่กลับมาเล่าให้คุณฟัง !“], นั่งคิดทบทวนเรื่องนี้กับตัวเองแล้วก็เขียนลง Blog ถึง 4 สิ่งที่เคยทำผิดไว้ในอดีตเมื่อสิบปีก่อน…
4. งานแรกที่เริ่มทำหลังเรียนจบ : สำคัญมาก…
เด็กจบใหม่มักคิดว่า “มีอะไรให้ทำก็ทำไปเถอะน่า” และ “ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ”
แต่จากประสบการณ์ตรง, ใครที่ “เริ่มต้นงานแรก” ได้ดีมักจะโตไวและโตไกลมาก
พร้อมกับ “เงินเดือน” หรือ “ค่าตัว” ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพื่อนคนไหนในรุ่นที่เริ่มต้นวัยยี่สิบปีด้วยเงินเดือน 3 – 4 หมื่นบาทไทย, ปัจจุบันรายได้หลักแสนกันหมดแล้ว
ส่วนหนึ่งก็คงเพราะเงินเดือนที่แรกเป็นเสมือน “ฐาน” เวลาย้ายไปบริษัทใหม่ [หรือถูกซื้อตัวโดย Headhunter] แต่อีกเหตุผลที่ยิ่งวันยิ่งสังเกตได้ชัดก็คือ “เพราะคนที่เริ่มต้นงานแรกด้วยเงินเดือนสูงๆ มีโอกาสเจอกับคนเก่งๆ เร็วกว่า”
และมักจะต้องรับมือกับ Case ที่ยากๆ ซึ่งก็เป็นประโยชน์อย่างมากในวันที่เรายังไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเยอะนัก
3. ภาษาคือทุกสิ่ง : จริงยิ่งกว่าจริงโดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้จบสายภาษา
อาจฟังดูแปลกๆ แต่ในมุมของผม, ภาษาคือ “การติดอาวุธเสริม” ที่ดีที่สุด
เมื่อต้นปี, ผมมีประชุมที่ Hokkaido
อยู่ๆ ก็มีงานด่วนเข้ามาว่า “อยากได้ Blogger หนึ่งคนที่พร้อมบินไป New York !”
ผมก็เลยข้ามจากญี่ปุ่นไป USA โดยไม่กลับไทย, โดยซื้อตั๋วเครื่องบินเอง / จองที่พักเอง [ใช้ AirBNB] / เดินทางจาก JFK Airport เข้าเมืองเอง / ไปเดินดูงานตาม Art Gallery เอง / สัมภาษณ์คนท้องถิ่นเองและสุดท้ายก็กลับบ้านเอง
อยากบอกว่า “ผมไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย” เมื่อเทียบกับเด็กอักษรฯ หรือนักศึกษาสายศิลป์ภาษา
แต่ผมอาจเก่งกว่าคนที่ทำงานสาย iT [เพราะงานอดิเรกคือการ Backpack, ซึ่งก็ทำให้มี US Visa สิบปีพร้อมบินทันที]
“นิดเดียว” คือสิ่งสำคัญ
ในโลกปัจจุบันที่ “นิดเดียว” คือทุกสิ่งทุกอย่าง
มี Engineer ที่เรียนจบคณะเดียวกัน 10 คน
บังเอิญมี 1 ในนั้นที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้, เขาจึงถูกเลือกให้บินไปดูงานที่ USA / UK หรือ Germany
จะมีสักกี่คนบนโลกที่พยายาม Click ไปอ่าน Website ซึ่งอยู่อันดับ 4 ของ Google Search ?
ความต่างแค่ 1 อันดับหรือ “นิดเดียว” ตรงนี้, เคยมีเจ้าของ Website รถมือสองบอกผมว่า “ไม่มีใครไปลงโฆษณากับ Web ที่อยู่อันดับ 4 หรอก” และ “เอาแค่คนเข้า Web อันดับสองแต่ละวันก็มีจำนวนต่างจากอันดับหนึ่ง 3 เท่าตัว”
ไม่ใช่ต่างแค่ “นิดเดียว…”
2. อย่าคบแค่คนวัยเดียวกันในวงกลมเดิมๆ : เพิ่มเติมคือความโลกแคบ
ผมเป็นคนที่ไม่มีความเก่งหรือความถนัดอะไรเลยแต่เผอิญโชคดีที่ชอบเขียน Blog เป็นงานอดิเรก
ในวันที่ Online Marketing มัน Boom, ด้วยจำนวนคนเข้า Blog ต่อวันหลัก 6 – 7 หมื่นจึงทำให้มีผู้บริหาร Brand ใหญ่ๆ สนใจติดต่อมาโดยตรงและสิ่งหนึ่งที่ผมได้รู้จริงๆ ก็คือในเมืองไทยมี “พนักงานบริษัท” ที่รายได้หลักล้านอยู่ไม่น้อย !
ใน Pantip มีกระทู้ Drama ทำนอง “ไม่เชื่อหรอกว่ามีคนวัยสามสิบที่ได้เงินเดือนเป็นแสนๆ” บ่อยๆ
ผมเชื่อว่า “มีจริง” อย่างสนิทใจ…
ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง [ซึ่งก็เป็นระดับผู้บริหารบนๆ ของเมืองไทย] เคยพูดเรื่องนี้ให้ผมฟังว่า
“เพราะพวกเขาคบแต่กับคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน”
คนเงินเดือนหมื่นห้า, วันๆ ก็อยู่แต่กับคนเดือนหมื่นห้า
จึงไม่รู้ว่ามีคนวัยเดียวกันอีกเยอะมากที่รับค่าตัวเดือนละสองแสน
และคุณก็เหมือนกัน [หมายถึงผม]
ที่อยู่กับคนเงินเดือนหลักใกล้ๆ กันด้วยกันจึงไม่รู้หรอกว่ามีพนักงานบริษัทอีกมากที่ได้เงินเดือนเดือนละล้าน !
แน่นอนว่าเรื่องเงินอาจไม่ใช่ปัจจัยใหญ่ในการคบใคร
[เรื่องวุฒิการศึกษาก็เช่นกันเพราะไม่อย่างนั้นคงไม่เหลือใครคบ “พวกเรียนไม่จบ“ อย่างผมแล้ว…]
แต่สิ่งที่ผู้ใหญ่ท่านนี้สอนผมไว้ก็คือ “เราชินมากไปกับการอยู่ในวงกลมเดิมๆ” และ “ปรับกะลาของเราให้แคบลงเรื่อยๆ” พร้อมกับ “พยายามไม่เชื่อว่ามีคนที่เก่งกว่าจริงๆ” เพราะ “ลึกๆ เรารู้ว่าเราเป็นแบบคนพวกนั้นไม่ได้”
1. หมุนตามโลกไม่ทัน : ซึ่งจะยิ่งไม่ทันหนักขึ้นในวันข้างหน้า
ผมเคยเล่าลง Blog ไปที, ว่ามีวันหนึ่งเจอคนขับ Uber ที่เพิ่งถูกให้ออกจากงานเพราะบริษัทปิดตัวกระทันหัน
มันคืองานด้าน Magazine
และผู้หญิงคนนี้ก็อายุใกล้ๆ กับผมที่สามสิบนิดๆ
เธอคิดจะหางานใหม่
แน่นอนว่า “อยากได้งานสายหนังสือเหมือนเดิม”
เหตุผลที่เธอให้ก็เข้าใจได้, คือ “ตั้งแต่เรียนจบมาก็ทำงานด้านสิ่งพิมพ์มาตลอด” และ “ไม่มีความถนัดอื่นเลย” [ซึ่งส่วนตัวผมว่าอาจไม่จริง 100% เพราะผมเองก็เคยทำ Magazine มือถือเช่นกันแต่เธออาจยังมองมันไม่เห็นมากกว่า…]
ความน่ากลัวของเรื่องนี้อยู่ที่ “ทาง” มันแคบลงไปเรื่อยๆ
วันก่อนผมเพิ่งเห็นนิตยสาร Seventeen ปิดตัว, ตาม Magazine หัวใหญ่ๆ ที่ล้มไปแล้วไม่รู้กี่เล่ม
ในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
โลกเปลี่ยนไปมากอย่างไม่น่าเชื่อ [ย้ำอีกทีว่า iPhone รุ่นแรกเพิ่งเปิดตัวไปไม่ถึง 10 ปี]
สิ่งที่คนวัย 2x เรียนเมื่อ 10 ปีก่อนตอนอยู่มหา’ลัย, อาจไม่มีค่าใดๆ ในปัจจุบัน ณ วันที่เขาอายุ 3x
ผมเองก็ยังถูกเตือนบ่อยๆ ว่า Blog ที่มีคนเข้าเดือนละล้านก็อาจไม่จีรัง, นั่นเป็นเหตุผลที่พักหลังๆ ผมย้ายเงินไปลงในอสังหาฯ กับหุ้นและกองทุนมากขึ้น [เพื่อเรียนรู้สิ่งที่ใหม่ๆ ที่ผมยังไม่รู้ด้วยเช่นกัน] เพราะโลกยังหมุนไปแม้ในเวลาที่ผมหลับ
เรากลับไปยังวันเก่าไม่ได้แต่ขอภาวนาให้อีกสิบปีข้างหน้า, ไม่กลับมานั่งเสียดายซ้ำอีกครั้งก็คงดี…