Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
เคยเขียน Blog เก่าว่าด้วยการ “ฝากเงินค้ำประกันเพื่อทำบัตร Credit Card ของ SCB“ ไปที, หลังจากมีบัตรใบแรกก็เริ่มมี Banks อื่นอนุญาตให้ทำบัตร Credit Card ใบถัดมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างง่ายดายและล่าสุดก็มีอีกธนาคารที่ติดต่อมา…
กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใดฯ,
Krungsri ก็เป็นอีก Bank ที่มีนโยบายออกบัตร Credit Card ให้กับชาว Freelance และคนตกงานฉันนั้นฯ
โดยมี 2 วิธีง่ายๆ ในการสมัครใช้บัตร Krungsri Credit Card
นี่ก็กำลังจะยื่นใบสมัครไป, สนใจ Krungsri Signature Credit Card กับ Krungsri JCB Platinum !
2 วิธีง่ายๆ ในการสมัครบัตร Credit Card กรุงศรีฯ ทั้งที่ไม่มีงานประจำ !
1. ฝากเงินค้ำประกัน : ทาง Krungsri จะอนุมัติวงเงินเป็นจำนวน 90% ของเงินฝากโดยเลือกได้ 3 ระดับคือ Titanium [40000 บาท] / บัตรทอง [50000 บาท] และบัตร Platinum ที่ 84000 บาท, แน่นอนว่าเงินฝากห้ามถอนตลอดกาล
2. ใช้ Statement : ที่มีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาทนาน 6 เดือนไปให้ Krungsri ดู, ออกได้ทุกบัตร !
รวมทั้ง Krungsri JCB Platinum สำหรับใช้ Lounger ฟรีที่ 28 สนามบินในญี่ปุ่น…
และ Krungsri Signature ที่เน้นสะสมไมล์พร้อม Royal Silk Lounge
ของผมนี่ทางกรุงศรีฯ ติดต่อมาด้วยเงื่อนไขข้อ 2, พร้อมการันตีว่าได้บัตร 1000% !
ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีสำหรับคนที่เป็น Freelance แต่อยากได้บัตร Credit Card
ทำไมบัตร Credit จึงมีค่ามากสำหรับ Freelance ?
ผมเคยเขียน Blog เก่าว่าด้วย “4 เหตุผลที่บัตร Credit Card ดีกว่าเงินสดเวลา Backpack !“ ไปและก็มี Bank ใหญ่ๆ เอา Content นี้ไป Shared เพราะมันเป็นความจริงอย่างมากสำหรับผมที่ใช้เวลาครึ่งปีอยู่ไทย [และครึ่งปีอยู่ไหนก็ไม่รู้]
การซื้อของผ่านบัตร Credit Card สามารถขอคืนเงินได้ง่ายหากสินค้ามีปัญหา
สามารถจองโรงแรม / ตั๋วเครื่องบินและรถไฟได้ระหว่างเดินทาง, เดี๋ยวนี้ Backpacker ก็ต้องมี Credit CArd !
และบัตร Credit Card ดีๆ ก็ยังมาพร้อมประกันภัยนั่นโน่นนี่, เวลาไปเมืองนอกก็เหมือนมีเงินสำรองหากไม่สบาย
แถมเวลาซื้อของผ่านบัตร Credit CArd ก็มักจะมีส่วนลดถูกกว่าซื้อเงินสดพร้อมแต้มสะสมไว้แลกของสิ้นปี
โดยเฉพาะ Freelance ที่บางทีอยากจะลงทุนซื้อของมา Setup ระบบเป็นเงินก้อนใหญ่ๆ ยิ่งจำเป็นมากมาย !
หรืออย่างผมที่บินไปซื้อ Macbook & iPhone 7 ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่เปิดตัววันแรกก็เช่นกัน, จ่ายผ่านบัตร Visa Credit Card ได้ส่วนลดเพิ่มอีก 5% [เมื่อหัก Tax Refund อีก 8% ก็ถูกกว่าไทยแน่นอน] และ Apple iDevice ทั้งหมดก็มี “ประกันทั่วโลก” อยู่แล้ว
การใช้จ่ายผ่านบัตร Credit Card ยิ่งคุ้มค่าและยิ่งพอเพียงกว่าเงินสด, ผมคิดอย่างนั้นนะ