Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
Uber เข้าไทยมาได้ก็ราวสามปี, ถ้าดูค่าเฉลี่ยการนั่งของผมที่ 1008 ครั้งก็เท่ากับ “เรียก Uber วันละหน”
และขอสารภาพตามตรงว่าผมไม่กลับไปนั่ง Taxi อีกเลย
นอกจากนี้ก็ยังขายรถทิ้งไปแล้วหนึ่งคัน, อีกหนึ่งคันเติมน้ำมันแค่ปีละสามครั้ง !
เพราะปัจจุบันผมแทบจะ “ทิ้งรถ” โดยสมบูรณ์, ส่วนหนึ่งเพราะบ้านอยู่ไม่ไกลรถไฟฟ้าและสะดวกว่าถ้าจะเรียก “อะไรสักอย่าง” จากบ้านไปส่ง BTS [ซึ่งก่อนหน้านี้มันควรจะเป็น Taxi แต่การเอาชีวิตไปฝากกับพวกเขามันเสี่ยงจะไปทำงานสาย]
แม้ผมจะเรียก Uber มาเป็นพันๆ ครั้ง, แต่จริงๆ Taxi ก็มีข้อดีบางอย่างมากกว่าถ้าพวกเขาจะคิดสักนิด…
1. คนขับ Uber แทบจะไม่รู้แผนที่กรุงเทพฯ
และเราก็ไม่ใช่ New York ที่ตรอกซอกซอยมีการวางผังเมืองมาเป็น Blockๆ
เมื่อวานผมเรียก Uber X มารับคนที่ Ikea, เส้นทางที่ Uber X วิ่งมาก็ตามภาพ…
อยากบอก Uber Thailand [และผู้ทำแผนที่ Google Maps] มากว่า “แค่เลี้ยวขวาก็ถึง Mega Bangna & Ikea แล้วไม่ใช่เรอะ !” แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าผีห่า Satan อะไรที่ทำให้ Uber ประมวลผลเส้นทางอ้อมโลกไปอีก 48.75 Km
เหตุผลหนึ่งที่ Uber แย่กว่า Taxi ตรงนี้ก็เพราะคนขับส่วนใหญ่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ
ถ้าเทียบกับที่ London, กว่าคนๆ หนึ่งจะมาขับ Taxi [Cab] ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้อง “สอบ” เรื่องแผนที่ด้วย
นี่คือจุดหนึ่งที่ Taxi ทำได้ดีกว่า Uber มากแต่ไม่ดึงมาเป็นจุดแข็ง
2. Taxi โบกได้แบบ Super Realtime
[ไปไม่ไปนี่อีกเรื่อง…]
ในขณะที่ Uber ต้อง “รอ” อย่างน้อยก็ 5 – 10 นาที
ซึ่งบางทีมันก็ “นานเกินไป” สำหรับใครที่ตื่นสาย
ในความเป็นจริง, นี่คือ “จุดแข็ง” ขั้นสุดของ Taxi
แค่เดินไปที่ถนนแล้ว “โบก”
และจากข้อ 1, บางครั้งที่ผมเรียก Uber มารับแค่ใกล้ๆ แต่เอาเข้าจริงกลับใช้เวลานานครึ่งชั่วโมงเพราะ “คนขับไม่รู้ทาง” เลย “วิ่งอ้อมโลก [ก็ดังที่เห็นในแผนที่]” จนสุดท้ายต้องกด “ยกเลิก” แล้ววิ่งไปขึ้นพี่วินฯ ไม่อย่างนั้นไม่ทันประชุมพอดี
3. Taxi ยังเป็นความเคยชินของสังคมไทย
Uber เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกได้ไม่ถึงห้าปี, นับเฉพาะที่เข้ามาทำตลาดในไทยก็น่าจะสามปีได้
คนรุ่นใหม่คือฐานของ Uber แต่ก็อาจเริ่มขยายไปเป็นคนสูงวัย, เช่นคุณแม่ผมที่พอได้ลองนั่ง Uber สักครั้งก็ติดใจ
ช่วงแรกๆ ที่ Uber เข้ามา, มี “ข้อจำกัด” เยอะมากอย่างการที่ลูกค้า “ต้อง” มีบัตร Credit Card
และคนไทยที่มีบัตร Credit CArd จริงๆ คือแค่ 5% ของทั้งประเทศ, เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของ Singapore ที่มีกันอย่างน้อย “คนละ 4 ใบ [By the end of 2014, the average Singaporean held about 3.9 credit cards]”
ถ้าวันนั้น “Taxi ดี” เหมือนที่ญี่ปุ่น, Uber อาจจะล่มสลายไปตั้งแต่ยังไม่ทันได้เกิด
แม้จนถึงวันนี้, ผมก็ยังคิดว่าคนส่วนใหญ่นึกถึง Taxi ก่อนแต่อีกสองสามปีข้างหน้าไม่อาจทราบได้…
ทำไมคนไทยเกลียด Taxi
หรือจริงๆ คนขับต่างหากที่ควรจะต้องถามตัวเองว่า “ทำไม ?”
วันก่อน, ผม Upload รูปที่เห็นข้างล่างนี้ขึ้น “Facebook ส่วนตัว” ซึ่งมี Followers แค่ไม่กี่พัน [ไม่ใช่ Facebook Fanpage ที่มีคนตามประมาณแสนห้า] แต่ว่ามันถูก Liked มากกว่า 1700 ครั้งและยังถูก Shared ออกไปอีกเกือบ 600 หน !
Caption ที่ผมเขียนก็สั้นๆ ว่า “ปฏิเสธคนไทยเหมือนหมูเหมือนหมา, อยู่ดีๆ เกิดจะรักขึ้นมาเวลาไม่มีกิน”
ชั่วโมงนี้มันน่าสนใจตรง “ลูกค้า” ของ Uber กลายเป็นคนที่ “ช่วยเรียกร้อง” ให้บริษัทเปิดบริการต่อไป
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ, เพราะสิ่งที่ Uber ให้กับสังคมไทยคือ “ยกระดับความปลอดภัย” และ “คุณภาพชีวิต”
การที่คนขับ Taxi ออกมาประท้วงด้วยการอ้างว่า “รักคนไทย” จึงยิ่งตรงกับ Caption
Taxi ที่ London ยังคงมีเสน่ห์, ทั้ง Design รถที่มีเอกลักษณ์และความสามารถที่ Uber [Part Time] เลียนแบบไม่ได้หรือที่ Tokyo ยิ่งชัดเจนว่า Uber ไม่สามารถตีตลาดได้ง่ายๆ เพราะ Taxi เดิมทีก็ดีมากแถมยังมีความปลอดภัยสูงที่สุดในโลก
จุดแข็งของ Taxi ไทยจริงๆ ก็ยังมี, แต่ดูเหมือนสิ่งที่เลวร้ายสุดน่าจะเป็น “สันดาน…”