Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
คุณ Cookie แพ้ทาง “ทุกอย่างที่อบหม้อดิน”, ทั้งที่ทีแรกตั้งใจจะไปกินอาหารเกาหลีเจ้าประจำชื่อ “Shinla” ที่เพิ่งจะกลับมาเปิดร้านอีกครั้งในห้าง 101 The Third Place ติดกับ Whizdom Condo ข้าง BTS ปุณณวิถี [คำขยายความเยอะจริงๆ]
พอดีคุณพี่สาวผมมาอบรมการทำ Latte Art สำหรับลูกบ้าน Condo นี้, ก็เลยพาคุณแม่มาหาอะไรทานกัน
โชคร้ายของ Shinla ที่อยู่ชั้น 3 เพราะตอนเดินผ่าน Jinlong ที่อยู่ชั้น G, เผอิญไปเห็นป้าย “ข้าวอบหม้อดินหนึ่งแถมหนึ่ง”
เลือกได้ระหว่าง “ข้าวไก่กุนเชียง” กับ “ข้าวซี่โครงหมูเต้าซี่”, นอกจากนี้ก็ยังมี Menu อาหารจีนแบบง่ายๆ อีกหลายอย่าง
แต่ที่ “เหวอสุดๆ” ก็ต้อง “ซาลาเปา” ในภาพนี้ !
ย้ำอีกที, ว่าที่เห็นนี่คือ “ซาลาเปา”
ที่สำคัญคือมันเหมือนเห็ดมาก !
ในระดับที่แยกด้วยตาไม่ออก…
ส่วนตัวผมยังไม่เคยเห็นซาลาเปาแบบนี้ที่ไหนในไทย, เคยเจอมาสองทีก็ที่ Singapore & HK
ก็เฮฮากันไป, ทั้งผมทั้งคุณแม่และทั้งคุณลูกของคุณพี่สาว
[ราคาก็ไม่แพงด้วย, ลูกละ 39 บาท]
ส่วน Menu อื่นๆ ของ Jinlong House ก็จะเป็น “อาหารจีนง่ายๆ” อย่างพวกขนมจีบซาลาเปา / ติ่มซำ / เปาะเปี๊ยะ / ผัดผักบุ้ง / บักกุดเต๋ / เต้าหู้ผัดพริกเกลือ / หมูกรอบ / โจ๊กหม้อดิน / เกี๊ยวกุ้งผัดซอสแต้จิ๋ว, ดูเป็นอาหารจีนแบบคนรุ่นใหม่
แต่ถึงแม้บรรยากาศจะดูออกแนว HK & SG, ภาษาที่ใช้ใน Jinlong ก็ยังคงเป็นจีนแบบบ้านเรา [“อั่งเปาตั่วตั่วไก๊” ใน Style แต้จิ๋ว] และสังเกตว่าลูกค้า “ทุกโต๊ะ” ที่นั่งอยู่ในร้านก็จะคล้ายๆ กับบ้านผมคือเป็น “ครอบครัวคนจีนที่ลูกหลานพาเข้ามาลองกิน”
Menu ที่สั่งไปก็คือข้าวไก่อบกุนเชียง / ข้าวหมูอบเต้าซี่ / บักกุดเต๋และเต้าหู้ผัดพริกเกลือ
ทุกอย่างมาใน Portion ขนาดหนึ่งคนทาน, ยิ่งให้อารมณ์เหมือนทานตาม Food Court ใน Singapore
หากถามว่าอร่อยไหม ?
ก็ตอบยาก…
คือทุกอย่าง “รสชาติเป็นกลาง” สุดๆ, อย่างบักกุดเต๋ก็มีกลิ่นเครื่องยาจีนน้อยมาก
ไม่มีเศษสมุนไพรแปลกๆ, มีแค่เก๋ากี้กับกระดูกหมูให้แทะเท่านั้นจริงๆ
ตัวข้าวอบหม้อดินก็ดูรู้เลยว่าเป็นกระบวนการแนว Fast Food, คือตักหมูตักไก่ใส่ในข้าวแล้วราดซอส
ตัวชามขาวสะอาด, รสชาติไม่ได้ซึมเข้าเนื้อแบบพวกร้าน Claypot ดังๆ ใน HK [ที่ตัวหม้อต้องไหม้ๆ หน่อย]
หรือถ้าเทียบแบบบ้านเรา, Jinlong ก็ไม่ใช่แนว “ร้านเก่าๆ แถวเยาวราช”
แต่ก็ไม่ได้แย่แบบพวกร้านอาหารจีนตาม Food Court ในห้างอย่างพวก Tesco & BigC
ที่ชัดเจนมากอีกอย่างก็คือ Jinlong House ให้อุปกรณ์การทานมาแค่สองอย่างคือ “ช้อนกับส้อม”
ส่วนใครอยากได้ “ตะเกียบ” ต้องขอเพิ่ม
สรุปว่า Jinlong House ดีในแบบทานง่ายๆ, หากใครอยากได้อาหารจีนจานเดียวสบายๆ ราคาไม่แพงสำหรับมื้อเที่ยงแต่ถ้าจะพาอากงอาม่าไปทาน “อาหารจีนจริงๆ จังๆ” แบบยุคเก่าคงไม่เหมาะเท่าไร [อาจจะพาลอดได้ “อั่งเปาตั่วตั่วไก๊” เอาดื้อๆ…]
ที่ “ประหลาด” อีกอย่างคือ Jinlong House มี “เก๊กฮวย” ให้สั่งทั้งร้อนทั้งเย็น [ร้อนมาเป็นกา, เย็นมาแบบ Refill ในราคาแก้วละ 39 บาท] แต่กลับไม่มี “ชาจีน” ซึ่งเป็นสิ่งที่คนแก่คนเฒ่าเขา “ทานคู่กันกับติ่มซำ” เป็นของว่างตอนบ่ายๆ
นอกจากโต๊ะผม, ครอบครัวข้างๆ ที่มากันสี่คนพ่อแม่ลูกสองเองก็ถามเหมือนกันว่าทำไมไม่มีชาจีน ?
แต่สรุปรวมๆ, มื้อนี้ที่บ้านผมก็ Happy ดีในราคาแค่สี่ร้อยกว่าบาท
ตัวห้าง 101 Third Place เองก็เสร็จเกือบจะสมบูรณ์แล้ว
ร้านหลักๆ อย่าง Starbucks / Bonchon / Wine Connection / After You / Ootoya / KFC / McDonald’s / Tops Supermarket และธนาคารต่างๆ ก็เปิดเกือบจะครบแต่กลิ่นสียังแรงอยู่ [เข้า Starbucks สั่งกาแฟดำ, รู้สึกเหมือนนั่งซดปูนซีเมนต์…]
การเดินทางก็ไม่ยากเท่าไร, ห่างจาก BTS ปุณณวิถีประมาณ 0.4 Km ได้