Android เยอะ ต้องซื้อรุ่นที่ RAM แยะ และ RAM ก็คือลังเบียร์

Special : "How to สร้างตัวตนออนไลน์ให้ชีวิตและธุรกิจด้วย Social Media !"

RAM ~ ให้อธิบายแบบ Blog ติงต๊อง, ไม่ Technical ก็คือ…

เอาแบบ Tecnical ก่อนดีกว่า, RAM ย่อมาจาก Random Access Memory หรือหน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม มีหน้าที่เก็บชุดคำสั่งและข้อมูลที่ระบบ System กำลังทำงานอยู่เพื่อส่งไปให้ CPU ทำการประมวลผล…

ถ้าไม่ Get, ~ คำอธิบายในแบบ CookieCoffee สรุปว่า RAM คือ “ลังเบียร์” ครับ – -v

สมมติว่าผมต้องการขนขวดเบียร์เปล่าๆ 300 ขวดจากบ้านไปปากซอย…

มันง่ายกว่ามาก, ถ้าผมเอาลังเบียร์มาใส่ขวดทีละ 100 ใบ ~ แล้วถือออกไปแค่ 3 รอบก็ครบ 300 ขวด :) 

RAM ก็คือลังเบียร์, และ RAM ที่ตัวเลขเยอะๆ เช่น 1 GBRAM ก็คือลังเบียร์ใหญ่ๆ นั่นเอง ~

หน้าที่ของมันก็คือตัวกลาง, สำหรับขนย้ายข้อมูล [ซึ่งก็คือขวดเบียร์] จากหน้าบ้านผมไปยังปากซอย :)

ถ้า RAM เยอะ ก็คือลังเบียร์ใหญ่ ~ ขนทีนึงได้ตั้ง 100 ใบแน่ะ :D

ถ้า SmartPhone เครื่องไหน RAM น้อย, ก็คือลังเบียร์เล็กๆ ขนทีได้แค่ 10 ขวดก็เต็ม…

ต้องวิ่งเอาไปทิ้งหน้าปากซอยทีนึงก่อน… แล้ววิ่งกลับมาใหม่ 30 รอบ สลบก่อนดีกว่า o_O!!!

ขวดเบียร์ในที่นี้ก็คือ App & Game บน SmartPhone นั่นเอง ~ ยิ่งถ้า RAM [ลังเบียร์] เราใหญ่เท่าไร, เราก็จะสามารถรัน App + Game พร้อมๆ กันได้มากขึ้นเท่านั้น ^^)

แต่เวลาซื้อก็ยังต้องดูดีๆ เพราะส่วนใหญ่ผู้ผลิตมักจะบอกแค่ความจุลังจริง…

 

เอาง่ายๆ อย่าง Quad Core Android 3 รุ่นตอนนี้, One X / Optimus 4X / Galaxy S3 ทั้งหมดนี้ ถ้าดูตาม Spec จะเห็นว่ามีเลข RAM เท่ากันที่ 1 GB [จุขวดเบียร์ได้ 100 ขวด :)]

แต่พอซื้อมาจริงๆ กลับพบว่า…

RAM มันเหลือให้เราใช้ไม่ถึง 1 GB นี่นา, มีแค่ 2xx – 4xx MB o_O?

เพราะ Android มัน “เยอะ” นั่นเอง… คือ 1 GB ที่ควรเป็นของเรา, กลับถูกตัวระบบ Android ยึดพื้นที่ไปหมด

และบาง Brand ยังใส่สิ่งที่เรียกว่า “Interface” [Menu เฉพาะตัวที่ครอบทับลงมา] แถมด้วย App ไร้ค่าเพียบ ผลก็คือ… พอผมหยิบลังเบียร์จะมาขนขวด, ในนั้นก็เต็มไปด้วยขยะ แถมยังห้ามเราเอาออกเองอีก – –

พอใช้ๆ ไป, RAM ลดลงต่ำๆ เครื่องมันก็จะอู้หนัก ไม่ก็ค้าง เลิกทำงานไปเลย…

 

[คิดภาพว่าผมมีลังที่น่าจะจุขวดเบียร์ได้ 100 ขวด แต่ดันมีขยะเต็มลัง, ขนได้แค่ทีละ 20 ขวดสิ… จากที่น่าจะขน 3 รอบจบ ผมต้องวิ่งไปวิ่งมาขนขวดเบียร์ทั้งหมด 15 รอบ เป็นผมผมก็ไม่อยากทำหรอก o_O!!!]

ดังนั้นเวลาจะซื้อ Android SmartPhone 1 ตัว, ต้องดูทั้งเลข RAM ตาม Spec…

และต้อง Check ด้วยว่ามันมีเลข RAM จริงๆ เหลือเท่าไร ~

อย่าง Optimus 4X ที่ผมใช้อยู่, มี 450 MBRAM ได้ ~ ถือว่า OK – -v

[Check ได้จากคำสั่ง Task Manager / RAM Manager ในเครื่อง – -/]

ส่วนตัวผม, คิดว่าจริงๆ แล้ว เลข RAM เนี่ยสำคัญพอๆ กับตัวเลขความแรง CPU…

หรือบางทีสำคัญกว่าอีก, เพราะต่อให้ CPU แรง [บ้าพลัง] แต่ RAM ต่ำ [ลังเบียร์เล็กหรือขยะเยอะ…]

 

ก็แปลว่าแม้เราจะมีพลังควายนรกแค่ไหน, เราก็ต้องวิ่งแบกลังเบียร์เข้าออกปากซอยไม่หยุด ทั้งที่จริงๆ พลังของเราน่าจะใช้แค่ถือลังเบียร์ 100 ขวดออกไปกลับ 3 รอบจบสบายๆ แล้วกลับมานอนซดเบียร์เพิ่มขวดแทน – –

หรือไม่งั้นก็เปรียบกับกระเป๋าถือคุณสาวๆ ก็ได้, ใบใหญ่ใส่ของได้เยอะ แม้ในนั้นจะมีขยะเต็มไปหมด… 

ใบเสร็จสมัยไหนก็ไม่รู้ / ขวดเปล่าๆ อะไรก็ไม่ทราบ / เครื่องสำอางที่ไม่ได้ใช้แต่ก็พกไปเผื่อๆ / บัตรสมาชิก Brand ที่สมัครแล้วลืม / บัตรลดแถมจาก Magazine ที่ยับยู่ยี่จนดูไม่รู้เรื่อง – –

Spray น้ำแร่ไว้ฉีดแก้ร้อน [สงสัยมากๆ ว่ามัน Work จริงเรอะ o_O?]

และ Tester ที่ได้แถมจาก BA [จริงๆ โดนหลอกซื้ออะไรก็ไม่รู้มา เพื่อเอาของแถม – -v]

แต่เราก็ไม่เอาออกจากกระเป๋าหรอก ~ ใส่ไว้แบกให้มันหนักเล่น เผื่อวันนึงจะได้ใช้ :P

จะว่าไป… เหมือน RAM ยิ่งกว่าลังเบียร์อีกนะเนี่ย เต็มไปด้วย App ขยะชัดๆ แล้วเวลารีบๆ หรือมือถือมีสายเข้านะ หึหึ…, อย่าหวังว่าจะหาอะไรเจอ นอกจากร้องแอร๊ยยยยซซซซ์ๆ แล้วเททิ้งทั้งกระเป๋า [ซึ่งบางทีก็ยังไม่เจอด้วยซ้ำ – -*]

สรุปว่า RAM คือ… ประมาณนี้ละกันนะครับ ~ [ประมาณไหนหว่า – -]