Special : "How to สร้างตัวตนออนไลน์ให้ชีวิตและธุรกิจด้วย Social Media !"
Share ลง Blog ไว้, เผื่อใครทำงานด้านการท่องเที่ยวหรือฝันอยากจะเปิด Hostel ของตัวเองในสักวัน
คือแต่ก่อน, ผมมีภาพของลูกค้าที่มาพัก Guesthouse & Hostel ว่าต้องเป็นพวกจนๆ แต่ดันฝันจะเที่ยวรอบโลก
ทุกคนต้องแบกเป้ Backpack แบบซำเหมา [เหมือนผม] และไม่มีเงินจะพักโรงแรมดีๆ
แต่สิ่งที่สังเกตได้อย่างหนึ่งก็คือพักหลังๆ กลุ่มลูกค้าที่มานอนในห้องรวม [Dorm] เริ่มเปลี่ยนไป, ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าเตียงข้างๆ จะมาพร้อม Macbook Pro & iPhone X และนี่ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ Roommate ของผมทักว่า “กุญแจรถซื้อที่ไหน ?”
เพราะเขาก็ใช้ BMW เหมือนกัน, และพวงกุญแจผมมัน “สะดุดตา” มาก
Backpacker อาจไม่ได้ยากจน : คนพัก Hostel อาจไม่ได้ซำเหมาอีกต่อไป
อย่างส่วนตัวผม, ก็เลือกพัก Hostel แบบ “ห้องรวม [Dorm]” ทุกครั้งที่ Backpack
แม้จะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้ยากจนขนาดที่ไม่มีเงินพักโรงแรมสามสี่ห้าดาว [แต่สมัยเด็กๆ ผมจนมากๆ, ใครที่อ่าน Blog มานานคงทราบดีเพราะผมก็ไม่เคยพยายามปกปิดเรื่องนี้] ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเลือก Hostel ก่อนเสมอด้วยหลายๆ เหตุผลเช่น
1. ไม่ชอบนอนคนเดียว, โดยเฉพาะในห้องใหญ่ๆ แบบโรงแรมห้าดาวที่รู้สึก “เวิ้งว้าง…”
2. ไหนๆ ก็ไปต่างบ้านต่างเมืองทั้งที, อยากรู้จักเพื่อนใหม่ๆ และอยากได้ยิน “ภาษาถิ่น”
3. การนอน Hostel มัน “เท่” ในความรู้สึกของหลายๆ คน [ผมเริ่มต้นนอน Hostel ก็ด้วยความคิดนี้นี่แลฯ]
4. มันได้ความรู้สึก “Local” กว่าการนอนโรงแรมที่เป็นตึกเหลี่ยมๆ เหมือนๆ กันทุกประเทศ
แม้จะเลือกนอน Hostel แต่ก็ยังต้องการความปลอดภัย
อาจจริงที่สมัยก่อน, Hostel ต้องคู่กับความซำเหมา
และบรรดา Backpacker ที่มาก็มีแค่เป้คนละใบกับเสื้อผ้าเก่าๆ, แบบที่ว่า “ใครจะปล้นก็ตามสบาย”
แต่ปัจจุบันไม่, หลายๆ คนมาพร้อมกับ Macbook Pro หรือ iPhone X [เพราะแผนที่เดี๋ยวนี้ก็อยู่บนมือถือ]
เช่นผม, เราไม่ได้เลือกนอน Hostel เพราะ “จน” หรือเพราะว่า “ราคามันถูก”
และก็มีหลายครั้งที่ผมเจอ Roommates ทำงานด้าน IT & Technology [โดยเฉพาะตอนแบกเป้ไป EU & USA], พวกเขามีชีวิตที่คล้ายผมมากตรงที่ “วันๆ ไม่ต้องเข้า Office” เพราะ “ทำงานที่ไหนในโลกก็ได้” ด้วย Macbook หนึ่งเครื่อง
เราจึงยิ่งออกเดินทางเมื่อไรก็ได้, แต่ก็ต้องการที่พักที่มั่นใจว่า Macbook [คือทุกสิ่งในชีวิต] จะปลอดภัย
Hostel ที่คนกลุ่มนี้อยากได้
1. แม้จะแพงกว่า Hostel ทั่วไปนิดหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
2. ขอให้มีปลั๊กไฟและ Free Wifi [สำหรับใช้ทำงานหาเงินค่าเดินทางต่อ]
3. มีความปลอดภัยสูงพอ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าในประเทศนั้นมันอันตรายอย่าง Russia & Philippines
4. ขอให้มีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง [เพราะก็อยากจะนั่งทำงานเงียบๆ นั่นแลฯ]
สังเกตอีกอย่าง, พวก Hostel ที่เกิดใหม่ในญี่ปุ่นมักจะโฆษณาชัดๆ เลยว่ามีปลั๊กไฟ / WiFi ฟรี / แต่ละเตียงมี “ผ้าม่านกั้น” แบบปิดเปิดได้ / พร้อม Locker ขนาดเล็กสำหรับเก็บมือถือเวลาไปอาบน้ำและ Hostel พวกนี้มักจะได้คะแนน Review สูงมาก
เมื่อคะแนนสูง, คนก็ตามไปและยิ่งมี Comments ดีๆ เท่าไรก็ยิ่งมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โลกเปลี่ยนไป [แต่เราก็ต้องทำใจและปรับตัว]
จริงๆ ก็เป็นประเด็นบ่อยๆ ในกลุ่ม Backpackers เมืองนอกว่า “เดี๋ยวนี้ทุกคนมี Macbook หรือไม่ก็ iPhone”
ทำให้ Hostel ไม่เหมือนเมื่อก่อน, ไม่มีใครมา Share ข้อมูลการเดินทาง [หรือหลงทาง] เพราะทุกคนเลือกที่จะ “ถาม Google” และบรรยากาศในห้องกลาง [Commonroom] ที่เดิมทีจะมี Backpackers มานั่งเล่าเรื่องที่ตนเจอมาจากประเทศนั้นประเทศนี้…
ก็กลายเป็นแค่ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ทุกคน “ก้มหน้า” อยู่กับ Macbook & iPhone ของตน
โลกมันเปลี่ยนไป, แม้แต่ในความสัมพันธ์ของเหล่า Backpackers ก็ดูจะห่างเหินกัน
แต่ในความเปลี่ยนแปลง, ก็แปลว่ามี “ตลาดใหม่” สำหรับใครที่มองเห็นโอกาสการลงทุน
Blog นี้เขียนที่ Tokyo, ผมจะกลับไทยไป Clear งานช่วงกลางเดือนแล้วก็จะบินไป Nepal ต่อครับ