Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 3 ใบ ! > "Click"
--------------------------
ลังเลอยู่หลายที, ว่าจะเขียน Blog นี้ดีไหม…
แต่เผอิญว่าพักหลังๆ, ผมมีงานอดิเรกใหม่อีกอย่างคือการเปิดสัมมนา How to be Blogger [จริงๆ การเขียน Blog นี่ก็เป็น “งานอดิเรก” เหมือนกัน] และกว่าครึ่งของผู้เข้าฟังก็คือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมหรือ SMEs ที่ต้องการจะ “Go Digital”
หลายๆ ครั้ง, ก็จะมีคำถามเกี่ยวกับคำกล่าวเท่ๆ ของ Guru คนนั้นหรือ Quote ของ Online Marketer คนนี้
ว่ามันจริงหรือไม่อย่างไรในโลกธุรกิจยุคใหม่
โดยเฉพาะการตลาดบน Facebook, ที่ทุกวันนี้ถูกลดยอดการมองเห็น [Organic Reaches] ลงอย่างถล่มทลาย !
4. คุณก็แค่ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา !
มันเป็นเรื่องจริง, ที่เราไม่ควรหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
แต่ในฐานะที่ผมเองก็มีธุรกิจส่วนตัวและเป็น Consultant ให้กับ SMEs, บอกเลยว่าเราไม่มีเวลาจะไปนั่งตาม Algorithm ใหม่เพื่อเอาใจ Zuckerberg ได้ทุกวันอย่างที่นักการตลาดทำเพราะเรายังมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายเช่นการหาสินค้า
พวกเขาอาจมีหน้าที่ศึกษาสิ่งเหล่านี้, เอาไปทำเป็น Report เพื่อรับเงินเดือนจาก Brand / บริษัทหรือ Agency
แต่สำหรับ SMEs, การต้องมานั่งเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทุกๆ สองเดือนไม่ใช่เรื่องขำ
เดือนที่แล้วกฏข้อนี้ใช้ได้แต่เดือนนี้ไม่, ส่วนกฏข้อนั้นเคยได้ผลเมื่อวันก่อนแต่เพิ่งยกเลิกกระทันหันไปเมื่อบ่ายๆ
ถ้าต้องคอย Update ตัวเองทุกๆ สองวันเพื่อเอาใจ Zuckerberg, คงไม่ต้องทำงานกันพอดี
3. คุณก็แค่ต้องทำ Ad โฆษณาดีๆ หรือ Content เจ๋งๆ ออกมา !
ก็จริงอีกเช่นกัน, ถ้าคุณเป็น Starbucks หรือ BMW
แต่ในการบรรยายรอบล่าสุดของผม, ส่วนใหญ่คนที่มาฟังก็คือ SMEs
อย่าลืมอย่างหนึ่ง, พวก Guru หรือนักการตลาดดังๆ เขาอาจเคยดูแลแต่ Brands ใหญ่
แค่เขวี้ยงแก้ว Starbucks แตกหนึ่งใบใส่กระจกหน้า BMW, คนดูก็เป็นล้านแล้ว
แต่ถ้าสินค้าของคุณคือเครื่องยิงกาว / ปุ๋ยชีวภาพหรือยาเบื่อหนู, ผมก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะทำ “Content เท่ๆ” ให้คนกด Share เป็นพันๆ เดือนละสามสี่ครั้งได้อย่างไร [และต้องไม่ใช่แค่ “Share” แล้วขำแต่ต้อง “สร้างยอดขาย” ให้ได้ด้วย]
หรืออย่างเมื่อปีก่อน, Guru หลายท่านก็แนะนำอีกว่า…
2. คุณก็แค่ทำเนื้อหาเป็น Video !
เพราะปี 2017 คือปีที่ Zuckerberg ให้ความสำคัญกับ Video [เพื่อสู้กับ YouTube ของ Google Inc] และสิ่งที่ Guru พวกนั้นกล่าวก็ “จริง” แต่ก็ย้อนกลับไปข้อ 3, ลูกค้าส่วนใหญ่ของผมคือ “SMEs” ที่เจ้าของเป็นคนวัย 35 – 40 ปีขึ้นไป
การที่อยู่ๆ จะบอกเขาว่า “ทำ Video Content สิ”, มันทำไม่ได้
Brands ใหญ่อาจมีงบสิบล้านที่เจียดมาทำ Video ได้ทันที, มีทั้งคนทั้ง Agency ทั้ง Production House
แต่ SMEs ที่ไม่คุ้นกับ Video อาจต้องไปจ้างคนนอกอีก 2 หมื่นเพื่อตัดต่อ Video หนึ่งอันที่ความยาว 15 นาทีโดยมีใจความหลักนาทีที่ 8 แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครดูเพราะทุกคนกด “ปิด” ตั้งแต่วินาทีที่ 12, สรุปว่า 2 หมื่นบาทสลายกลายเป็นวุ้น
และถ้าเกิดปีหน้า Zuckerberg หันมาสนใจ Virtual Reality, ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องทำธุรกิจกันแล้ว
1. อนาคตอยู่บนโลก Online !
คุณต้อง Go Digital, ไม่อย่างนั้นตายแน่นอน
แต่วันก่อน, ผมเดินผ่านหน้าร้าน “ชอบชา” ที่ขายกาแฟทุกอย่างแก้วละ 30 บาท
คิวยาวข้ามสองตึกแถวไปจนถึงหน้าตลาด, โดยที่ “ชอบชา” แทบจะไม่ได้ทำการตลาดบนโลก Online
มาถึงจุดหนึ่ง, เหมือนทุกธุรกิจถูก “กดดัน” กลายๆ ให้ย้ายตัวเองขึ้นมาบน Blog / YouTube หรือ Social Networks ทั้งที่จริงๆ กลุ่มเป้าหมายอาจไม่ได้มาจากโลก Online และสุดท้ายก็ต้องเสียเงินไปกับการทำ “Content เจ๋งๆ” ที่ลูกค้าไม่ดู
ถ้าเป็นปีก่อนๆ อาจยังจริง, เพราะ Facebook และ Social Network คือ “ของฟรี”
แต่ปัจจุบันไม่, บางคนต้องยกรายได้ที่หามาจากการขายของ Online ให้กับ Zuckerberg เดือนๆ หนึ่ง 90%
ถ้าใคร [ทน] อ่านได้จนถึงบรรทัดนี้ก็คงรู้ดีว่าผม “เห็นด้วย” กับสิ่งที่บรรดานักการตลาด Online หรือเหล่า Guru เขาพูด [เท่ๆ] ทุกประการแต่เผอิญว่า “วิธี” ของพวกเขามัน “เข้ากันได้กับ Brand ใหญ่”, ไม่ใช่คนค้าขายทั่วไปหรือธุรกิจ SMEs
ถ้าเราเป็นหมาก็อย่าล่าเหยื่ออย่างสิงห์, กินกระต่ายสองตัวก็อิ่มได้โดยไม่ต้องวิ่งไปสู้กับช้าง