Special : สมัครบัตร Amex วันนี้ฟรีตั๋วชั้นธุรกิจสู่ญี่ปุ่น 4 ใบ ! > "Click"
--------------------------
คือกระทู้แนะนำอันดับหนึ่งของ Pantip ห้องสีลมกับเนื้อหาหนึ่งบรรทัดว่า “วางแผนจะมีเงินเก็บหรือไปลงทุนทำอย่างอื่นต่อสักเท่าไรดี, ถ้ามีเงิน 10 ล้านคิดว่าพอไหม ?” ตามมาด้วย “Top Comment” จากการ Voted ของสมาชิกที่ว่า…
“ถ้าเป็นเรา, มี 1 ล้านก็คงลาออกแล้ว”
อ่านกระทู้ Pantip หรือ Facebook Post ทำนองนี้ทีไร
ผมก็เกิดความสงสัยทุกทีว่า
“ถ้าเกลียดงานที่ทำอยู่ขนาดนั้น, ทำไมไม่หางานใหม่ !”
ความคิดที่ว่า “สักวันจะเลิกทำงาน” ไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย
และคนรอบตัวผมส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้
ซึ่งถ้าถามว่าทำไม
คำตอบง่ายๆ
“เพราะงานมันสนุก”
และนี่ต่างหากคือ “ต้นตอของปัญหา” ที่แท้จริง
อย่างการเขียน Blog ของผมทุกวันนี้ก็เหมือนกัน, คือมันเป็น “งานอดิเรกที่สนุกดี [แถมยังได้เงิน]” และที่เดือนสองเดือนนี้เริ่มเปิดอบรมเล็กๆ เป็นงานอดิเรกใหม่ก็เพราะมัน “สนุกดี [แถมยังได้เจอคนเก่งๆ จากหลายสาขาที่อุตส่าห์มานั่งฟังผมพูด]”
ซึ่งถ้าถามว่าแล้วสักวันจะเลิกเขียน Blog เพื่อลาออกไปปลูกผักไหม ?
คำตอบก็คง “ไม่”
และถ้าถามว่าทำไม ?
คำตอบง่ายๆ
“เพราะงานมันสนุก”
[Copy & Paste มาจาก Paragraph บน…]
นอกจากการเขียน Blog [งานอดิเรกเดิม] และการเปิดอบรม [งานอดิเรกใหม่], ผมก็ยังมีงานอื่นๆ อีกมากมายอย่างเช่นการเป็น Consultant ให้กับธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ SMEs [ซึ่งก็เป็นงานอดิเรกที่ “สนุก” เช่นกันเพราะมันได้เจอ Case ใหม่ๆ ทุกวัน]
ไม่มีงานไหนที่ทำให้ผมรู้สึก “ทุกข์ทรมาน” จนถึงขั้นต้อง “อยากจะทิ้งมัน” เพื่อ “หนีไปปลูกผักแถวชนบท [และบ้านเกิดผมก็อยู่กรุงเทพฯ, ถ้าย้ายไปต่างจังหวัดนี่ยิ่งเท่ากับเพิ่มต้นทุนด้วยนะนั่น]” ในวันที่สังคมพยายามกดดันให้คนรู้สึก “เกลียดงานที่ทำ”
ถ้าไม่สนุกกับงาน, แปลว่าวันเวลาหนึ่งในสามของชีวิตคือการ “ทน”
และเชื่อเถอะว่างานที่ต้อง “ทน” ก็จะทำมันได้ไม่ดี, เหมือน Taxi บ้านเราที่ก่นด่าชีวิตและสิ่งที่ตัวเองทำ
แทนที่จะ “ทน” ไปอีกสิบปีเพื่อรอวันหนีไป “ปลูกผัก”
ทำไมไม่ตามหางานที่รัก, เพื่อจะได้รู้สึกเหมือนไม่ต้องทำงานไปอีกตลอดกาล
และอยากเตือนว่า “เงินหนึ่งล้านปัจจุบันมันไม่ได้มาก”, ตอนคุณพ่อผมเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการเส้นเลือดในสมอง
หนึ่งล้านสลายกลายเป็นเป็นไอในไม่กี่วัน, แถมสุดท้ายก็ตาย…